ในเวลา 5 ทุ่มของวันที่ 3 ตามเวลาประเทศไทย ทางบริษัทค่ายเกมอย่าง Mojang ผู้ผลิตเกม Minecraft เจ้าเก่าเจ้าเดียวก็ได้ทำการเปิดตัวอับเดทที่ได้สัญญาไว้อย่าง Caves and Mountains โดยมีไฮไลต์เด็ดๆ จากการเปิดตัวดังนี้ครับ

เนื้อหาในสตอรีนี้

อับเดทการสร้างถ้ำใหม่

การอับเดทนี้ทำให้เกมสามารถสร้างถ้ำที่เสมือนจริงกับถ้ำในชีวิตจริงมากขึ้น ซี่งผู้เล่นมายคราฟท์ในยุคเก่าๆ นั้นจะรู้อยู่แล้วว่าการสำรวจถ้ำนั้นสบายเสียเหลือเกิน เพราะตัวถ้ำเป็นเพียงการสร้างโพรงเล็กๆ เท่านั้น และไม่เหมือนกับถ้ำของจริงเสียเลย

แต่ภายในอับเดทนี้ เพื่อนๆ จะได้เห็นถึงการสร้างโครงสร้างถ้ำที่ใหญ่บ้าง แคบบ้าง เป็นห้องโถงบ้าง มีหินงอกออกมาจากด้านบนบ้าง มีเสาขนาดใหญ่บ้าง พร้อมทั้งการทำให้ถ้ำนั้นมีแสงแดดจากด้านบนส่องลงมาในถ้ำอีกด้วย ซึ่งเพิ่มความสมจริงและทำให้การสำรวจถ้ำนั้นสนุกมากขึ้นเช่นกัน

และนอกจากนี้ ความหลากหลายนั้นก็จะไม่จำเจเข้าไปอีก เพราะว่าการสร้างครั้งนี้จะทำให้เกมนั้นสร้างถ้ำตามไบโอมที่มันอยู่ ซึ่งในรายละเอียดนั้นต้องรอออกตัวเต็มก่อนเพื่อจะเข้าไปดูเบื้องลึกของเรื่องนี้ครับ

บล็อคใหม่ในถ้ำอีกมากมาย

ผู้ใช้งาน EllaCute บน Reddit ได้ทำการโพสท์ภาพด้านล่างนี้ โดยผู้ใช้งานได้สังเกตเห็นถึงซีนด้านหลังทีเซอร์ ซึ่งเป็นไปได้สูงที่จะเป็นบล็อคใหม่ที่ไม่เคยมีอยู่ในเกมมาก่อนอย่างหินอ่อน (Marble) หินปูน (Limestone) และหินชนวน (Slate) ที่มีลวดลายที่แตกต่างบล็อคอื่นๆ ของเกมอย่างเห็นได้ชัด และโทนสีที่เกมไม่เคยมีมาก่อน ซึ่งในรายละเอียดนี้ก็ต้องดูกันต่อไปว่าจะมีการเปิดตัวบล็อคพวกนี้เมื่อไหร่

ไบโอมหินงอกหินย้อย (Dripstone Caves)

หรือที่ทางผู้พัฒนาเรียกว่า Dripstone Cave ซึ่งภายในพื้นที่ก็จะเป็นถ้ำที่มีขนาดใหญ่ และมีหินงอกหินย้อยที่พร้อมตกลงมาเจาะหัวผู้เล่นอยู่ตลอดเวลาอีกด้วย พร้อมทั้งความสมจริงอย่างการหยดของน้ำ ซึ่งน้ำที่หยดลงมนั้นสามารถเติมหม้อปรุงยา (Cauldron) ให้เต็มได้ หรือเพื่อนๆ จะเลือกใช้หินงอกหินย้อยที่ผุดขึ้นมาจากพื้นมาเป็นหนามทิ่มแทงสิ่งมีชีวิตที่ตกลงมาโดยหินงอกหินย้อยแทงอีกเช่นกัน

โดยชื่อเรียกหินงอกหินย้อยนั้นก็คือ Stalactites หรือหินที่ย้อยออกมาจากเพดานของถ้ำ และ Stalagmites ที่เป็นหินงอกออกมาจากพื้นของถ้ำ ซึ่งนอกจากการให้ความรู้ด้านถ้ำแก่ผู้เล่นแล้ว ก็สามารถใช้หลักทางฟิสิกส์ในการสร้างฟาร์มฆ่าสัตว์ร้ายหรือเป็นกับดักก็ได้เช่นกัน

ภาพประกอบจาก Minecraft

ไบโอมถ้ำที่มีน้ำขัง

นอกจากถ้ำโล่งๆ โปร่งๆ แล้วก็จะขาดไปไม่ได้เลยกับถ้ำที่ถูกน้ำขัง ซึ่งภายในถ้ำนั้นก็มีการคำนวณด้านการสร้างน้ำในถ้ำใหม่อีกด้วย และนอกจากความสวยงามของถ้ำที่มีน้ำขังแล้ว อาจจะทำให้เพื่อนๆ อาจจะต้องว่ายน้ำเพื่อเข้าไปสำรวจถ้ำภายในที่มีน้ำขังหรือโผล่ไปยังอีกถ้ำนึงอีกด้วย ซึ่งระดับน้ำของทั้งสองฝั่งของถ้ำน้ำขังก็จะอยู่ในระดับเดียวกันอีกด้วย เป็นการสร้างความสมจริงให้กับเกมในเรื่องของระดับน้ำที่จำเป็นต้องอยู่ในระดับเดียวกัน

ภาพประกอบจาก Minecraft

พื้นที่อุดมสมบูรณ์ใต้บาดาล (Lush Caves)

หรือที่เรียกว่า Lush Cave ซึ่งจะเป็นพื้นที่ที่มีต้นไม้เติบโตและรากชอนไชอยู่เป็นจำนวนมาก แม้ว่าพื้นที่นี้จะมีต้นไม้หลายประเภทและสามารถปลูกเบอรรี่ที่สามารถกินได้ แต่ก็เป็นเพียงการตกแต่งให้พื้นที่ใต้พิภพได้มีความสวยงามขึ้นเท่านั้นและเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของสัตว์อย่างแอกโซโลตเช่นกัน ซึ่งการมีอยู่ของพื้นที่อุดมสมบูรณ์นี้จะทำให้ถ้ำของเกมนั้นดูไม่จำเจและโล่งจนเกินไปอีกด้วย

บล็อกใหม่ใน Lush Cave

ภายในถ้ำ Lush Cave นั้นมีบล็อคใหม่เต็มไปหมด อย่างเช่นบล็อก Spore Blossom ที่ผู้เล่นสามารถขุดและย้ายต้นไม้เพื่อให้ไปสร้างสปอร์ในจุดที่เราเอาไปวางแทนได้ หรือ Dripleaf Plant ที่จะทำให้ผู้เล่นนั้นสามารถกระโดดขึ้นไปยืนบนใบ ซึ่งใบนั้นจะหุบเมื่อผู้เล่นยืนบนต้นนานเกินไปอีกด้วย และ Glow Berry ที่ผู้เล่นใช้กินได้และมันจะเปล่งแสงได้อีกเช่นกัน

ภาพประกอบจาก Minecraft

แอกโซโลต (Axolotl)

และนอกนั้นยังไม่พอ ภายใน Lush Cave นั้นมีสัตว์น่ารักที่อาศัยอยู่ในไบโอมที่จะทำให้เพื่อนๆ ต้องแวะไปหาไบโอมนั้นอย่างด่วนเลย ซึ่งสัตว์ตัวนั้นนั่นก็คือแอกโซโลต (Axolotl) นั่นเอง และยังมีสีที่แตกต่างกันอีกด้วย

ภาพประกอบจาก u/anv3d บน Reddit

นอกจากความน่ารักที่เราสามารถรับมันไปเลี้ยงได้แล้ว (ผ่านการจับมันเข้าไปยังถัง) มันก็ยังสามารถช่วยเราโจมตีสัตว์ใต้น้ำได้อีกด้วย ตัวอย่างเช่น Guardian หรือ Drowned ซึ่งในตัวอย่างนี้ ผู้เล่นได้ทำการเอาแอกโซโลตไปช่วยผู้เล่นโจมตี Elder Guardian

และหากว่าตัวแอกโซโลตนี้ถูกโจมตีและอยู่ในขั้นเจ็บหนัก มันก็สามารถแกล้งตาย (Play Dead) เพื่อให้ศัตรูของมันไม่โจมตีมันจนตายจริงๆ และระหว่างนั้นมันก็จะทำการฟื้นฟูร่างกายของตัวเองและกลับมาสู้ใหม่ได้อีกครั้งหนึ่ง ทำให้เราไม่ต้องกลัวว่าแอกโซโลตลูกรักของเรานั้นจะโดนศัตรูจับกินไปแล้วหรือไม่

ภาพประกอบจาก Minecraft

ต้นไม้ Axalea

ต้นไม้ใหม่นี้จะมีลักษณะที่ไม่เหมือนต้นไม้แบบอื่นในเรื่องของใบ ที่จะมีดอกไม้สีม่วงอยู่บนใบนั่นเอง ซึ่งต้นไม้นี้จะเป็นตัวบ่งบอกถึงการมีอยู่ของ Lush Cave ที่อยู่ด้านล่างของตัวต้นไม้นี้ ซึ่งความสมจริงที่ทางผู้พัฒนาได้เพิ่มขึ้นมาก็คือ จะมีบล็อคใหม่ที่เป็นเหมือนดินที่ถูกรากชอนไชอยู่ในบล็อค ซึ่งหากว่าเราขุดไปจนถึงต้นตอแล้วนั้น เราก็จะเจอกับ Lush Cave นั่นเอง ทำให้ต้นไม้นี้เป็นเหมือนทางเข้าหรือตัวบ่งบอกถึงการมีอยู่ของ Lush Cave ที่อยู่ด้านล่างนั่นเอง

ภาพประกอบจาก Minecraft

ไบโอมเดอะดีพดาร์ค (The Deep Dark)

ไบโอมนี้จะรวบรวมสิ่งที่น่ากลัวของถ้ำเอาไว้ด้วยกัน ซึ่งมีทั้งเรื่องของทัศนวิสัยของผู้เล่นจะลดลงเมื่ออยู่ในไบโอมนี้ และนอกจากนี้ก็จะมีบล็อคและสัดว์ดุร้ายที่ใช้ชีวิตอยู่ภายในพื้นที่แห่งนี้

ภาพประกอบจาก Minecraft

หนีผีแต่ใจต้องนิ่งกับ Warden

วอร์เดนนั้นเป็นสัตว์ร้ายตัวใหม่ที่ได้เปิดตัวกับอับเดทนี้ ซึ่งจะบอกว่ามันนั้นร้ายกว่าบอสของเกมเสียอีก บอสที่ว่าโหดแล้วก็ยังไม่สามารถฆ่าผู่เล่นที่มีชุดเกราะเต็มตัวได้ แต่เดอะวอร์เดนนั้นสามารถทำได้โดยการตีเพียงหนึ่งครั้งเท่านั้น โดยเดอะวอร์เดนนั้นจะเกิดในพื้นที่เดอะดีพดาร์ค (The Deep Dark)

วอร์เดนนั้นจะทำการตีผู้เล่นเมื่อผู้เล่นทำเสียงมากเกินไปจนไปปลุกวอร์เดนขึ้นมาจากการหลับไหลนั่นเอง ซึ่งหากว่าผู้เล่นนั้นต้องการตีเนียน ผู้เล่นก็สามารถทำการโยนลูกหิมะเพื่อทำการล่อให้วอร์เดนนั้นไปสนใจลูกหิมะที่แตกแล้วแทน ซึ่งนั่นหมายความว่าตัววอร์เดนนั้นจะเป็นสัตว์ที่ตาบอด แต่จะมีประสาทสัมผัสอันแรงยิ่งนั่นเอง

ภาพประกอบจาก Minecraft

ซึ่งก่อนที่นักพัฒนานั้นได้ออกแบบตัววอร์เดนนั้นขึ้นมา ก็มีการขุดไปยัง “หลักการพัฒนาเกมมายคราฟ” และก็ได้สังเกตถึงตอนท้ายของเกม ที่ผู้เล่นนั้นแทบจะไม่ต้องระวังอะไรเลย แต่ในอับเดทนี้ เพื่อนๆ ก็คงจะไม่สามารถทำอย่างนั้นได้อีกแล้ว ต้องหลีกเลี่ยงการปะทะอย่างเดียว

ห้องสมบัติของวอร์เดน (Warden’s Treasure Room)

หนีผีอย่างเดียวก็คงไม่พอ อาจจะต้องตอบแทนผู้เล่นเสียหน่อยด้วยการมีกล่องสมบัติให้เก็บ ซึ่งสมบัติภายในกล่องนั้นก็ยังคงเป็นความลับอยู่ หากมีการอับเดทมาแล้วผมจะมาอับเดทให้ฟังครับ

ภาพประกอบจาก Minecraft

เทียน (Candle)

จากในทีเซอร์แล้วก็จะเห็นได้ว่าภายในไบโอมเดอะดีพดาร์คนั้นมีเทียนจุดอยู่เป็นระยะๆ ซึ่งจุดประสงค์นั้นก็อาจจะเป็นในเรื่องของการตกแต่ง ที่การใช้คบเพลิง (Torch) ไปใช้ส่องสว่างอาจจะดูจำเจเสียเกินไป

ภาพจาก u/reynirrtg บน Reddit

บล็อค Sculk Growths

เป็นบล็อคที่จะเติบโตตามธรรมชาติในไบโอมเดอะดีพดาร์ค และหากว่ามันเติบโตเป็นบริเวณกว้าง มันก็จะถูกเรียกว่าเป็น Sculk Growths นั่นเอง โดยจะเห็นว่าขอบของบล็อคนี้จะเป็นเหมือนหยดน้ำ อาจจะมีความเป็นไปได้ที่ว่าจะเป็นพื้นที่ที่กำลังรุกบล็อคอื่นอยู่ ซึ่งคุณสมบัตินั้นอาจจะยังไม่ชัดเจนว่าสามารถทำอะไรได้บ้าง

ภาพประกอบจาก Minecraft

บล็อค Sculk Sensor

บล็อคนี้จะเกิดอยู่บนบล็อค Sculk และจะทำหน้าที่เป็นเหมือนตัววัดการสั่นสะเทือนของเสียงหรือบล็อค ซึ่งเมื่อตัวเซ็นเซอร์นั้นสามารถจับเสียงได้ เพื่อนๆ ก็จะเห็นเหมือนเป็นไฟ เพื่อไปส่งสัญญาณให้ตัวเซ็นเซอร์นั้นทำงาน โดยระบบนี้จะเป็นระบบเดียวกันกับตัววอร์เดนมี

ซึ่งตัวบล็อคนั้นก็สามารถปล่อยสัญญาณ redstone ได้อีกด้วย ทำให้เพื่อนๆ ที่ต้องการเอาบล็อคนี้ไปใช้งานเป็น Wireless Redstone หรือการตรวจจับการเคลื่อนไหวก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน

ภาพประกอบจาก Minecraft

และอีกฟิสิกส์หนึ่งที่น่าสนใจนั่นก็คือ การใช้งานขนแกะเพื่อดูดซับเสียง ซึ่งหากว่าเราใช้ขนแกะไปบัง (ด้วยการเอาไปวางกั้น) ก็จะทำให้ตัววัดนี้ไม่สามารถตรวจพบเสียงที่มาจากทิศทางของขนแกะได้เพราะว่าโดนดูดเสียงไปแล้วนั่นเอง

ภาพประกอบจาก Minecraft

จีโอดอเมทิสต์ (Amethyst Geodes)

ภายในจีโอด (Geode) นั้นจะมีแร่คริสตอลเป็นจำนวนมาก ซึ่งผู้เล่นสามารถขุดคริสตอลอเมทิสต์ (Amythyst Crystal) ไปใช้งานคราฟท์ได้ ซึ่งแร่คริสตอลนั้นจะสามารโตได้ตามธรรมชาติแต่จะโตได้เพียงบนบล็อคพิเศษที่อยู่ในห้องเท่านั้น และบล็อคพิเศษนั้นไม่สามารถขุดได้อีกด้วย ทำให้ผู้เล่นที่ต้องการสร้างฟาร์มปลูกคริสตอลก็จะต้องสร้างฟาร์มล้อมตัวจีโอดนั่นเอง

ทางผู้พัฒนานั้นเห็นว่าการเพิ่มบล็อคใหม่นี้จะทำให้ผู้เล่นตื่นตาตื่นใจอย่างแน่นอน ทั้งเสียงเพลงอันสดใสที่เล่นอยู่ภายในห้อง ก็ไม่วายกับเรื่องของความหายากของจีโอดที่จะยากเย็นเช่นกัน

ภาพประกอบจาก Minecraft

กล้องส่องทางไกล (Telescope)

ตามชื่อเลยครับ ซึ่งการที่เราสามารถได้ Amethyst มาแล้ว เราก็สามารถเอามาคราฟท์ตัวกล้องส่องทางไกลได้อีกด้วย ซึ่งหนึ่งในปัญหาของผู้เล่นทั่วไปนั่นก็คือต้องการซูมอะไรที่มันอยู่ไกลๆ นั่นเอง ซึ่งผู้เล่นอื่นอาจจะหาโหลด mods อย่างเช่นพวก Optifine มาเพื่อเอาไว้ซูมโดยเฉพาะ แต่ในครั้งนี้ผู้พัฒนาก็ได้เชิญเข้ามาอย่างเต็มตัวเรียบร้อย

อับเดทภูเขาให้สูงตระหง่าน

อับเดทตามชื่อเลยจริงๆ เพราะในอับเดทนี้ทำให้ภูเขานั้นสูงและชันขึ้นอย่างเห็นได้ชัดกันเลยทีเดียว โดยรายละเอียดนั้นทางผู้พัฒนาจะมีการเปิดตัวในภายหลัง

ภาพประกอบจาก Minecraft

ความหนาวอันหฤโหด

นอกจากความยากในการขึ้นภูเขาทีละชั้นแล้ว สิ่งหนึ่งที่ทางผู้พัฒนาได้ฝากเอาไว้นั่นก็คือพายุหิมะ ที่จะทำให้ทัศนวิสัยของผู้เล่นนั้นสั้นลงเป็นอย่างมากและเต็มไปด้วยสีขาวไปทั้งหน้าจอ ซึ่งในชีวิตจริงแล้วการที่ไปเจอกับพายุหิมะบนภูเขานั้นก็ไม่ใช่เรื่องแปลกซักเท่าไหร่ ดังนั้นเราอาจจะตัองรอให้ทางผู้พัฒนาได้ทำการอธิบายในรายละเอียดในจุดนี้ต่อไป

บล็อคผงหิมะ (Snow Powder)

นอกจากพายุหิมะที่เห็นว่ายากแล้ว ก็ยังมีบล็อกใหม่ที่จะมาเพิ่มระบบฟิสิกส์ของเกมอีก นั่นก็คือบล็อคผงหิมะนั่นเอง ซึ่งบล็อคนี้จะทำให้ผู้เล่นนั้นหล่นลงไปเมื่อผู้เล่นเหยียบมัน ซึ่งผิวเผินแล้วอาจจะดูเหมือนว่าเป็นบล็อคหิมะทั่วๆ ไป แต่ถ้าเหยียบบล็อคนี้แล้วก็จะจมเข้าไปในบล็อกเลย ซึ่งทำให้ระบบหิมะของเกมนั้นเสมือนชีวิตจริงมากขึ้นอีก และผู้เล่นก็จำเป็นที่จะต้องเดินบนหิมะอย่างระมัดระวังอีกเช่นกัน

แพะภูเขา (Goats)

แพะภูเขานั้นเป็นผู้ชนะของการโหวดเลือกสัตว์ตัวใหม่ในปีที่แล้ว ซึ่งแพะภูเขานั้นสามารถกระโดดได้สูงและก็จะไม่ได้รับการบาดเจ็บจากการกระโดดสูง และหากแพะนั้นโกรธตัวละครใด มันก็จะทำการใช้หัวขวิดให้ตัวละครกระเด็นไปไกลเลยทีเดียว

ภาพประกอบจาก Minecraft

แร่ทองแดง (Copper Ore)

แร่ใหม่นี้เกิดขึ้นมาเพื่อให้ผู้เล่นนั้นเข้าใจถึงลักษณะของการนำไฟฟ้าของแร่ และประโยชน์ต่างๆ ของแร่ที่ในชีวิตจริงนั้นมีการใช้งานอยู่อีกด้วย

ภาพประกอบจาก Minecraft

สายล่อฟ้า (Lightning Rod)

ประโยชน์ของสายล่อฟ้านั่นก็คือการนำกระแสไฟฟ้าลงดินนั่นเอง ซึ่งก็จะทำให้กระแสไฟฟ้านั้นไปผ่าสายล่อฟ้าแทนจุดอื่นของบ้าน เพื่อให้บ้านของเรานั้นไม่โดนฟ้าผ่าและเกิดไฟไหม้อีกด้วย เป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ ที่อาจจะมีบ้านที่ทำด้วยวัตถุไวไฟอย่างไม้นั่นเอง

ภาพประกอบจาก Minecraft

โดยประโยชน์ที่ผู้เล่นมายคราฟท์ใน Reddit ได้ทำการสังเกตนั่นคือการใช้สายล่อฟ้าเพื่อสร้างฟาร์ม Creeper นั่นเอง ซึ่งฟาร์มนี้เป็นไปได้อย่างยากลำบากมาก เพราะว่าไม่สามารถคาดเดาว่าฟ้าจะผ่าลงมาในจุดไหนนั่นเอง

การเกิดออกซิเดชันของทองแดง (Copper Oxidization)

หากดูวิดีโอ Timelapse แล้วก็จะเห็นได้ว่าฝั่งที่ไม่ค่อยโดนแดดหรือโดนฝนนั้นก็จะไม่ค่อยเกิดปรากฏการณ์ออกซิเดชัน ซึ่งก็ล้อไปตามความเป็นจริงของการเกิดออกซิเดชันในชีวิตจริงอีกด้วย

การเกิดของแร่แบบใหม่

นอกจากการเกิดแบบปกติ ที่จะเป็นการเกิดแบบเป็นกลุ่มก้อน ก็จะมีการเกิดแบบเป็นสาย (Vein) อีกด้วย ซึ่งก็จะทำให้ผู้เล่นนั้นต้องขุดเพื่อไปเอาแร่ต่างๆ ได้ยากขึ้น ไม่สามารถขุดหนึ่งครั้งแล้วได้แร่มาทั้งหมดเหมือนเมื่อก่อนได้อีก ซึ่งในรายละเอียดนั้นต้องรอติดตามอับเดทเต็มกันต่อไป

พื้นที่โบราณคดี (Archaeological Excavations)

หรือที่เรียกว่า Archaeological Site ซึ่งจะเป็นโครงสร้างที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ เป็นการเพิ่มในส่วนของเนื้อเรื่องของเกม ที่จะแสดงถึงว่าเคยมีคนอยู่ในเกมและก็เคยมีคนเคยขุดหาหลักฐานทางประวัติศาสตร์ของเกมอีกเช่นกัน

ภาพประกอบจาก Minecraft

การหาแร่จากการปัดด้วยแปรง (Brush)

ซึ่งก่อนที่จะสามารถปัดหาแร่ได้นั้น ผู้เล่นก็จะต้องทำการใช้อุปกรณ์พิเศษเพื่อที่จะปัดหาแร่ได้ นั่นก็คือแปรง (Brush) นั่นเอง ซึ่งทางผู้พัฒนานั้นได้ยืนยันแล้วว่าจะมีแปรงให้เก็บในที่พักของผู้ดูแลโบราณคดีอย่างแน่นอน โดยในภาพประกอบด้านล่างมีประเภทแปรงอยู่สองแบบอีกด้วย ซึ่งอาจจะหมายความว่าการคราฟท์แปรงจากแร่ที่แตกต่างกันอาจจะสร้างความหลากหลายของความทนทางของแปรงเช่นกัน

ภาพประกอบจาก Minecraft

การปัดหาแร่ในพื้นที่

การปัดหาแร่นั้นก็ไม่ยากเลย โดยในไลฟ์สตรีมมีการปัดจาบล็อคดิน (Dirt block) และบล็อคกรวด (Gravel block) ที่อยู่ภายในบริเวณพื้นที่โบราณคดี ซึ่งหากการแปรงนั้นเราทำการแปรงแรงไป โบราณวัตถุภายในบล็อคก็อาจจะแตกได้อีกด้วย

ภาพประกอบจาก Minecraft

และในพื้นที่โบราณคดี นอกจากจะมีโบราณวัตถุแล้วก็จะมีขุมทรัพย์เพื่อให้มาขุดดูอีกด้วย ตัวอย่างเช่นบล็อคมรกต (Emerald Block) ให้เก็บไปใช้อีกด้วย

เครื่องปั้นดินเผา (Ceramics)

โดยเครื่องปั้นดินเผาที่เราได้ทำการเก็บมานั้น มันจะเป็นเพียงลายของเครื่องปั้นดินเผาส่วนหนึ่งเท่านั้น ซึ่งหากว่าเราต้องการทำเครื่องปั้นดินเผาของตัวเองและใช้ลายจากเครื่องปั้นดินเผาที่ขุดพบ ก็สามารถทำได้โดยการนำไปแปะกับเครื่องปั้นดินเผาที่ยังไม่ได้ย่างไฟ (นั่นก็คือยังเป็นดินเหนียวอยู่) และเมื่อเราตกแต่งเสร็จเรียบร้อยแล้วก็สามารถย่างไฟ และมันก็จะกลายมาเป็นเครื่องปั้นดินเผาตามที่ต้องการนั่นเอง

และสุดท้าย สัตว์ตัวใหม่

ในปีนี้ก็เหมือนกับปีที่แล้วที่จะให้ผู้เล่นมายคราฟท์นั้นได้เลือกว่าจะเพิ่มสัตว์ตัวใหม่ ตัวไหนเข้าไปในเกม ซึ่งผู้ชนะของในปีนี้นั่นก็คือ…….

นั่นก็คือ… ปลาหมึกเรืองแสง (Glowing Squid) นั่นเอง โดยในทีเซอร์นั้นได้ทำการอธิบายว่าปลาหมึกนี้จะเรืองแสงเพื่อให้มหาสมุทรนั้นดูวิบวับและมัวหลงไปกับการเรืองแสงของมันอีกด้วย ซึ่งปลาหมึกตัวนี้จะเข้าไปอยู่ในเกมเมื่อไหร่แล้วสามารถทำอะไรได้บ้างนั้นก็ต้องรอติดตามกันต่อไปครับ

สนับสนุนโดย

Share this post

About the author