เรื่องนี้เกิดขึ้นจากการที่อยู่ดีๆ เราได้รับข้อความที่ชวนเล่นการพนัน ซึ่งนอกจากผิดกฎหมายแล้วก็ยังทำให้เรารำคาญอีกด้วย ซึ่งข้อความนี้มาจากไหน แล้วจะทำยังไงเพื่อไม่ให้รับข้อความประเภทนี้อีก ในสตอรีนี้ผมจะมาเล่าให้ฟังกันครับ

ทำไมเราถึงโดนสแปม

ในข้อนี้ก็อาจจะมาจากหลายสาเหตุก็ได้ครับ ไม่ใช่มาจากแอพเดียวก็ได้ (ขออนุญาตไม่พาดพิง) ซึ่งตัวอย่างก็มีอย่างเช่น

อีเมล์/เบอร์ของเรานั้นหลุดโดยผู้ให้บริการอื่น

ซึ่งพวกต้องการที่จะก่อกวนนั้นก็เพียงแค่ต้องไปเอาอีเมล์ที่ได้จากทั้งข้อมูลหลุดออนไลน์ (หรือ Data Breach) หรือแม้กระทั่งแอบหลอกว่าขอเบอร์หรืออีเมล์หรือบัญชี Apple ID แล้วก็ลองว่าอีเมล์นั้นเชื่อมกับตัว iMessage หรือไม่

และอื่นๆ อีกมากมายที่เราเองอาจจะไปกรอกเบอร์โทรศัพท์ไว้ที่ไหนแล้วผู้อื่นสามารถเข้าถึงเบอร์โทรศัพท์ของเราได้ เช่นบนโซเชียลมีเดีย บอกไว้กับบริษัทฯ ใดซักบริษัทหนึ่งเป็นต้น ซึ่งเราเองนั้นก็ไม่รู้หรอกครับว่าจริง ๆ แล้วมันมีที่มาจากไหน

ผู้ส่งข้อความมั่วอีเมล์/เบอร์แล้วพบว่าบัญชีของเราสามารถรับข้อความผ่าน iMessage ได้

ซึ่งก็เป็นเหตุผลนี้แหละครับที่ทั่วโลกเค้าได้รับผลกระทบ ซึ่งการสุ่มเลขเบอร์โทรศัพท์ไทยนี้ก็ไม่ยากเลย จะมาแสดงให้ดูกันครับ โดยเบอร์โทรศัพท์ทั่วไปนั้นก็จะมีหลักแบบนี้ครับ

[เลขรหัสประเทศ] [เลขระบุเบอร์โทรศัพท์เช่น 06 08 09] [เลขเบอร์ 8 หลัก]

ซึ่งก็จะทำให้คนที่เค้าใช้คอมพิวเตอร์ในการวนสุ่มเลขไปเรื่อยๆ เค้าต้องสุ่มเพียงสามร้อยล้านเลขหมายเท่านั้น ซึ่งคอมพิวเตอร์เดี๋ยวนี้สุ่มแบบนี้เร็วมากอาจจะเรียงเลขไปเรื่อยจนหมดเพียงแค่ระดับชั่วโมงเท่านั้นครับ

NOTE : อย่าสับสน iMessage กับ SMS นะครับ โดยสังเกตง่ายๆ ก็คือสีของข้อความที่เราส่งไปนั่นเอง โดยหากว่ารับ/ส่งข้อความผ่าน SMS ตัวบับเบิลข้อความนั้นจะเป็นสีเขียว/เทา แต่หากเป็น iMessage ก็จะเป็นสีน้ำเงินครับ

ซึ่งเราสามารถเข้าไปดูว่าเขาสามารถส่ง iMessage หาเราได้อย่างไร ด้วยวิธีดังนี้ครับ : Settings -> Messages -> Send & Receive

ซึ่งในหน้านั้นก็จะมีข้อมูลว่าอีเมล์หรือเบอร์ไหนที่สามารถรับ iMessage แล้วเป็นชื่อเราได้ ซึ่งถ้าหากมีมากก็อาจจะทำให้เป็นเหยื่อในการสแปมได้ง่ายขึ้นอีกด้วย

วิธีการปิดไม่ให้สแปมต่อ

จริงๆ เราเองไม่สามารถที่จะไปทำการปิดเพื่อให้มีคนสแปมคนใหม่เข้ามาสแปมเราได้ แต่เราสามารถหยุดการส่งข้อความจากเจ้าสแปมเมอร์เดิมได้ โดยมีขั้นตอนที่ต้องทำดังนี้ครับ

ขั้นตอนการบล็อคผู้ใช้งาน
  1. เข้าไปยังหน้าข้อความ
  2. กดที่รูปผู้ส่ง (ภาพที่ 1)
  3. กด Info (ภาพที่ 2)
  4. กดไปยังชื่อผู้ส่ง (ภาพที่ 3)
  5. กด Block (ภาพที่ 4)

แยกข้อความจากผู้ส่งที่เราไม่รู้จัก

แต่นอกจากนี้ เราก็ควรตั้งค่าเครื่องให้ทำการแยกข้อความที่เราไม่รู้จักออกมาเป็นอีกโฟลเดอร์หนึ่ง เพื่อให้ไม่สับสนกับข้อความปกติ โดยสามารถทำได้ดังนี้ : กดไปที่ Settings -> Messages และเปิด Filter Unknown Senders (ตามภาพด้านซ้าย) เวลามีข้อความ iMessage ที่เราไม่มีรายชื่อติดต่อด้วยก็จะไปอยู่ใน “Unknown Senders” (ตามภาพด้านขวา) ให้อัตโนมัติครับ

รายงานการสแปมให้แอปเปิล

สุดท้ายแล้ว ท้ายสุดเลย นอกจากเราจะป้องกันตัวเองจากการสแปมครั้งต่อไปแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญนั่นก็คือการช่วยเหลือสังคมด้วยการแจ้งบัญชีสแปมเมอร์ให้กับแอปเปิลครับ โดยมีขั้นตอนดังนี้

  1. ในข้อความที่้เราไม่รู้จักผู้ส่ง จะขึ้นคำว่า “Report Junk”
  2. ทำการกด “Report Junk” (ภาพที่ 2)
  3. กดยืนยัน (ภาพที่ 3)

หรือในกล่องข้อความ ให้ทำการปัดข้อความที่ต้องการแจ้งไปทางขวาและกด Delete และให้ทำการกด “Report Junk” ในตัวเลือกตามภาพด้านล่าง

NOTE : จริงๆ แล้วพวกสแปมเมอร์ก็สามารถสมัครบัญชีใหม่เพื่อมาสแปมต่อได้ ซึ่งวิธีการแก้ปัญหาระยะยาว ก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของแอปเปิลก็แล้วกันครับ

สุดท้ายคืออย่าให้รู้ว่าเรามีตัวตนจริง

เป็นการตั้งรับปัญหาในขั้นปลายๆ ซึ่งจะบอกว่า อันนี้เป็นเรื่องสำคัญมากเพราะสแปมพวกนี้เค้าต้องการที่จะส่งข้อความไปเยอะๆ แล้วคนเข้าไปอ่านนั่นเอง ซึ่งในหัวข้อนี้ก็จะเป็นการทำอย่างไรเพื่อไม่ให้คนอื่นรู้ว่าเราใช้ iMessage อยู่

ปิด Send Read Receipts

หากเพื่อนๆ ทำการปิดเรียบร้อยแล้วผู้ส่งก็จะไม่รู้ว่าเรานั้นได้ทำการอ่านข้อความของเราแล้วหรือไม่ ซึ่งข้อความที่เราเผลอเข้าไปอ่านแล้วไปทำให้เค้ารู้ว่าเราอ่าน มันก็จะเป็นการยืนยันว่าการส่งข้อความสแปมนี้ได้ผล สามารถไปหาเหยื่อได้จริงๆ ก็อาจจะทำให้เขาส่งหาเราอย่างไม่จบไม่สิ้นอีกด้วย

เพื่อที่จะปิด Send Read Receipts นั้นก็ให้ทำการเข้าไปที่ Settings > Message แล้วก็ไปปิดที่ช่อง Send Read Receipts ได้เลยครับ

[ไม่แนะนำ] ปิดบัญชี iMessage ไปเลย

หากเพื่อนๆ ไม่มีเพื่อนเล่น iMessage แล้วก็ไม่คิดว่าจะได้เล่น iMessage อีกนานเลย เพื่อน ๆ ก็อาจจะยกเลิกการลงทะเบียนการใช้ iMessage ไปเลยนั่นเอง แต่พูดๆ แล้วก็น่าเสียดายครับที่ไม่ได้ใช้ เพราะทุกคนที่ใช้อุปกรณ์ Apple ก็แทบจะต้องมีบัญชี iMessage อยู่ ซึ่งก็คืออันเดียวกันกับบัญชี Apple ID นั่นเอง

หากเพื่อนๆ ต้องการอ่านวิธีการปิดบัญชี iMessage ก็กดติดตามผมเพื่อรออ่านสตอรีที่จะถึงก่อนใครครับ

สนับสนุนโดย

Share this post

About the author