อยากเรียนภาษาใหม่อย่างอังกฤษ จีน ญี่ปุ่น เกาหลี ฝรั่งเศส เยอรมัน แต่ก็ไม่มีเวลาเรียนเหรอ แต่วันนี้ขอแค่มี 5 นาทีต่อวันก็เพียงพอต่อการเรียนรู้ศัพท์ ประโยค วิธีการอ่านและฝึกฝนให้แม่นยำได้แล้ว ในสตอรีนี้เราจะพูดถึงเรื่องของวิธีการเรียนที่แปลกแหวกแนวและเหมาะสำหรับการเรียนบนโทรศัพท์ และมาตอบคำถามที่ว่า 5 นาทีนั้นพอแล้วหรือไม่
แอพฯ Drops คืออะไร
แอพ Drops เป็นแอพเรียนภาษาที่มีวิธีลักษณะว่าให้จำคำศัพท์ผ่านการทดสอบกับเกม โดยการทดสอบจะแสดงถึงความสามารถของเราที่จำคำศัพท์ใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่ ซึ่งหลักการก็คือเราจำและเราจะต้องสามารถทวนกลับไปว่าคำนั้นหมายความว่าอะไร สะกดอย่างไร อ่านอย่างไร
แต่นั่นก็ไม่ใช่ทั้งหมดซะด้วยสิ เพื่อนๆ ยังต้องแสดงถึงความจำอันดีเลิศในคำนั้นด้วยการมีอยู่ของตัวหลอกตัวล่ออันมากมาย ซึ่งวิธีแบบนี้ทำให้ผมคิดถึงแอพประเภท Flash Card หรือท่องศัพท์ แต่เพิ่มความท้าทายในการจำเข้าไปเพื่อไม่ให้เบื่ออีกด้วย และสามารถเสร็จได้ภายใน 5 นาที
ภาษาที่สอนมีอะไรบ้าง?
นอกจากภาษาอังกฤษ (บริททิชอิงลิช และ อเมริกันอิงลิช) แล้วก็ยังมีภาษาจีน (ทั้งจีนกลาง และ จีนแต้จิ๋ว) เกาหลี ญี่ปุ่น เยอรมัน ฝรั่งเศส อิตาเลียน โปรตุเกส รวมไปถึงภาษาที่ผมเองก็ไม่รู้จักอย่างภาษาฮาวาเอียน (Hawaiian) ภาษาญี่ปุ่นเดิม (Ainu) ภาษาซาโมน (Samoan) หรือแม้กระทั่งภาษาโลก (Esperanto) ซึ่งเพื่อนๆ สามารถเข้าไปดูรายชื่อภาษาที่มีได้ที่ https://languagedrops.com/languages ได้เลยครับ
เริ่มต้นเรียนภาษา
พูดมาซะขนาดนี้ เรามาเริ่มใช้แอพกันเลยดีกว่า เมื่อเราได้เข้ามาในแอพแล้ว ตัวแอพก็จะถามว่าเราอยากที่จะเรียนภาษาอะไร โดยเขาก็จะมีตัวเลือกให้เราเลือกครับ ว่าเราอยากที่จะเรียนภาษาเป็นภาษาอะไร
เมื่อได้ทำการเลือกภาษาที่อยากจะเรียนแล้ว ตัวแอพก็จะเริ่มทำการเลือกคำมาสอนครับ โดยมีทั้งรูปภาพ คำศัพท์ต่างประเทศและก็คำแปลครับ ซึ่งผมแนะนำว่าระหว่างเรียน ให้เพื่อนๆ ทำการฝึกพูดตามไปด้วยนะ ซึ่งนอกจากที่จะช่วยให้เราจำได้ขึ้นใจแล้ว อีกประโยชน์หนึ่งก็คือการฝึกออกเสียงที่ถูกต้องอีกด้วย
โดยเมื่อเราได้เรียนคำใหม่ ก็จะเจอบททดสอบที่แตกต่างกันไป เพื่อทดสอบว่าเราจำได้หรือยัง ซึ่งผมว่ามันเป็นวิธีในการจำที่ว่า เราผิดพลาดครั้งแรก ครั้งต่อไปก็จะไม่ผิดอีก หรือ “การเรียนรู้จากความผิดพลาด” เช่นถ้าเราสามารถจำได้แล้วเพราะถามทีไรเราก็ตอบถูก แอพก็จะไม่ต้องเอาศัพท์มาให้เราเห็นบ่อยมาก แต่ถ้าเอามาทีไรแล้วผิดทุกที คราวนี้แหละครับมันก็จะมาถี่แบบสุดๆ เหมือนว่าเมื่อไหร่เธอจะจำกันเลยทีเดียว (แอพไม่ได้โหดขนาดนั้นนะ ไม่ต้องกลัวไป 😀 )
ในตัวแบบทดสอบนั้น ก็จะมีหน้าตาประมาณนี้ครับ ซึ่งมีทั้งการ
- เรียงคำ
- เรียงตัวอักษร
- จับคู่คู่คำจากคำศัพท์
- จับคู่คำจากการออกเสียง
- จับคู่ได้ถูกต้องหรือไม่
โดยโหมดเกมนั้นจะถูกเลือกจากระดับความยาก ที่เพื่อทดสอบเราว่า เราจำคำนั้น เราสะกดคำนั้น เราฟังเสียงแล้วจำได้หรือไม่ไปเรื่อยๆ โดยไม่รู้ว่าจะโผล่มาตอนไหนอีกด้วย จนกว่าจะถึงจุดที่เรา “จำได้อย่างแน่นอน” เลยทีเดียวครับ ซึ่งจริงๆ แล้วเราจะได้เห็นคำนั้นจำนวน 17 ครั้งก่อนที่มันจะเลิกถาม
เรียนอย่างไรไม่ให้ลืม
เป้าหมายของการเรียนนั่นก็คือ เรียนแล้วก็จำ จำแล้วก็ต้องไม่ลืม ซึ่งหากว่าเพื่อนๆ ไม่อยากที่จะลืมก็ต้องเห็นมันบ่อยๆ จนกว่าจะมั่นใจได้ว่าเราจะไม่ลืมมันจริงๆ ซึ่งวิธีการในการช่วยจดจำของแอพก็มีดังนี้ครับ
กำหนดเวลาเรียนทุกวัน
การเรียนทุกวัน นอกจากจะทำให้เราฟื้นความจำแล้ว ก็จะทำให้เรานั้นพร้อมเรียนรู้คำศัพท์ใหม่ได้เลยอีกด้วย โดยแอพจะทำการถามว่าเราต้องการเรียนศัพท์ 5 นาทีตอนไหนของวันดีและทำการแจ้งเตือนว่าให้เข้ามาเรียนในเวลานั้นครับ แนะนำว่าเมื่อทำการตั้งเวลาแล้วก็ให้ทำเป็นนิสัยทุกวันด้วยนะ เพราะหากว่าไม่ได้ใช้คำศัพท์นั้นทุกวัน เราก็อาจจะมีสิทธิลืมได้มากเช่นกัน
เก็บคอมโบ
นอกจากนั้น การเข้ามาเรียนทุกวันก็จะทำให้เรานั้นเก็บคอมโบในการเรียนเอาไว้อวดอีกด้วย
แล้วอย่างนี้ถ้าลืมเข้ามาเรียนหล่ะ
จริงๆ แอพนั้นมีการแนะนำว่า หากว่าวันนี้ลืมเข้ามาเรียน พรุ่งนี้ก็ต้องเข้ามาฝึกฝนความจำ ไม่งั้นจะลืมจริงๆ แน่ครับ
ขอจบไปก่อน…เท่านี้
สำหรับสตอรีนี้ หากว่าผมเล่นไปซักพักแล้วก็จะมีฟีเจอร์อย่างการฝึกฝนคำศัพท์ที่แม้ว่าจะ “จำได้แล้ว” ก็จะฝึกอย่าง Dojo หรือฟังก์ชันการเรียนภาษาในด้านของประโยคคำพูด ผมก็จะเข้ามาอับเดทสตอรีนี้อย่างต่อเนื่องครับ