วันนี้เราก็จะมาทำการสรุปว่า Genshin Impact กำหนดเรื่องพวกนี้อย่างไร เพื่อให้จำกัดผู้เล่นไม่ให้เล่นเยอะ และเมื่อคอนเท้นท์มารองรับแล้วก็จะมีอะไรเล่นอย่างแน่นอน

เกี่ยวกับเกม Genshin Impact

เกม Genshin Impact ที่เราจะได้รับบทบาทเป็นตัวละคร/นักเดินทางที่มาจากเมืองอื่น หรือที่ถูกตัวละครอื่นเรียกว่า Traveller ได้เข้ามาในประเทศ Teyvat ประเทศที่เต็มไปด้วยเมืองน้อยๆ อีก 7 เมือง เพื่อตามหาน้องที่ได้พลัดพลากจากกันโดยตัวร้ายของเกมและไม่รู้ว่าจะมีชีวิตรอดหรือไม่ นักเดินทางจึงจำเป็นจะต้องไปหาพลังจาก Statue of the Seven หรือเทพเจ้าทั้งเจ็ดใน Teyvat

แต่ด้วยว่าเกม Genshin Impact นั้นเพิ่งเปิดตัวออกสู่สาธารณะไม่ถึงปี ด้วยคอนเท้นท์ที่ยังมีจำกัด และก็ยังไม่มีใครรู้ได้ว่าอัพเดทต่อไปจะมีคอนเท้นท์เพื่อให้ผู้เล่นหน้าเก่าเล่นหรือไม่ ซึ่งนั่นก็หมายความว่าเกมจะต้องทำอย่างไรก็ได้เพื่อให้ผู้เล่นหน้าเก่านั้นไม่สามารถเล่นทั้งวัน ขนาดที่ว่าไม่ต้องกินไม่ต้องนอน และเปลี่ยนเป็นว่าจะกำหนดว่าผู้เล่นจะไม่สามารถอัพเกรดตัวละครเกินหน้าเกินตา ก่อนที่อัพเดทใหม่จะเข้ามาได้อย่างเด็ดขาด

อยากแจกแต่ก็ต้องทำงานหน่อย

นอกจากเรื่องของการรับ Feedback ของผู้เล่นจากการเปิดให้ผู้เล่นใช้งานระบบฟิสิกส์หรือการทำงานของอุปกรณ์ต่างๆ ผ่านหน้าโซเชียลมีเดียแล้ว ก็ยังมีการขอให้ผู้เล่นทำ Survey ที่เกี่ยวข้องกับความรู้สึกต่ออีเว้นท์จำกัดเวลา (Limited-time Events) อย่างไร โดยการมอบสกุลเงิน Mora ให้เมื่อทำ Survey เสร็จอีกด้วย แต่นั่นก็ไม่ใช่หัวข้อที่เราจะมาพูดถึง

แต่สิ่งที่น่าสนใจสำหรับผมมากที่สุดนั่นก็คือการให้ผู้เล่นเข้าร่วมอีเว้นท์ และอย่างน้อยก็แค่เข้าร่วม ซึ่งก็จะทำให้ผู้เล่นที่ไม่ค่อยมีเวลามากหรือเล่นเกมไม่เก่งก็สามารถได้รับรางวัลใหญ่ที่สุดหากผู้เล่นเข้าร่วมกิจกรรม และสำหรับผู้เล่นที่ต้องการความท้าทายหรือรางวัลเพิ่มเติมก็สามารถเล่นให้จบหรือครบตามจำนวนได้ แต่ของรางวัลก็อาจจะถูกลดหลั่นตามปริมาณความยากและงานที่ผู้เล่นจะต้องทำ

โดยการให้รางวัลแบบนี้ก็เหมือนกับการกว้านให้ผู้เล่นทั้งเก่งและไม่เก่งเข้าร่วมกิจกรรมและมีความสุขในการเล่นเกม ซึ่งก็จะแตกต่างจากเกมอื่นๆ ที่จะต้องใช้เวลาหรือความอดทนอย่างสูงเพื่อที่จะรับรางวัลใหญ่

อีเว้นท์จำกัดเวลา ซัมเมอร์หรรษากับเกาะมหัศจรรย์ | ภาพจาก Genshin Impact Community

การอธิษฐานพรที่เน้นกราด ไม่เน้นแม่น

การอธิษฐานพร (Wishes) หรือการกดตู้กาชา เป็นกลไกหลักของรายได้เกม Genshin Impact เลยก็ว่าได้ ซึ่งทุกๆ 3 สัปดาห์ (ประมาณ 20 วัน) ก็จะมีตัวละครและอาวุธที่เกมเอามานำเสนอเป็นพิเศษ ด้วยการเพิ่มความเป็นไปได้ (Rate UP) ในการจับตัวละครหรืออาวุธที่ได้ระบุไว้เป็นพิเศษ แต่สำหรับตัวละครหรืออาวุธที่ไม่ได้รับการเพิ่มความเป็นไปได้ในช่วงเวลานั้นๆ ความเป็นไปได้ก็ถือว่าน้อยมากๆ ขนาดที่ว่าผู้เล่นจะไม่รู้เลยว่าตัวละครหรืออาวุธนั้นจะกลับมาให้อธิษฐานอีกเมื่อไหร่ หรืออาจจะเป็นของหายากที่แทบจะหาซื้อไม่ได้เลย

โดยหนึ่งการอธิษฐานนั้นก็จะต้องใช้สกุลเงินพรีเมียมอย่าง Primogems ถึง 160 Primogems (หรือประมาณ 79 บาท) เพื่ออธิษฐานตัวละครหรืออาวุธหนึ่งครั้ง และมีความเป็นไปได้ที่จะจับได้ตัวละคร 5 ดาวเพียง 0.6% (หรือ 1.6% เมื่อคำนวณร่วมกับอัตราการันตี) ซึ่งหากว่าเพื่อนๆ ต้องการที่จะจับได้ตัวละครหลักก็อาจจะต้องอธิษฐานสูงสุดถึง 180 การอธิษฐานเพื่อได้รับตัวละครตามอัตราการันตี

ซึ่งถ้าผู้เล่นคนไหนต้องการที่จะยอมเปย์เพื่อให้ได้ตัวละครหรืออาวุธที่ตัวเองอยากได้ก็อาจหมดเป็นหลักพันบาทเพื่อซื้อการอธิษฐานก็เป็นได้เช่นกัน

อยากเก่งมาก ก็ต้องลงทุน (ด้วยการเปย์)

และนอกจากเรื่องของการอธิฐานแล้ว หนึ่งตัวละครและอาวุธก็สามารถที่จะอัพเกรดและปลดล็อคพลังเพิ่มเติมได้อีกด้วย ซึ่งผู้เล่นสามารถ (หรือบังคับ) แลกตัวซ้ำเพื่อให้สามารถอัพเกรดค่าสถานะพิเศษ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วก็จะเพิ่มจากค่าสถานะธาตุ 20-40% หรือการให้ค่าประจำกลุ่ม (Passive Skills) กับตัวละครในทีม

ฟังดูแล้วดูน่าสนใจใช่ไหมหล่ะ? แต่ก็ต้องหยุด (หรือไม่หยุดก็ได้นะ) ไว้ที่ ราคาที่ต้องจ่าย เพื่อที่จะได้ของที่คุณต้องการ

โฆษณา

เกมก็ไม่ได้บังคับให้ผู้เล่นเติมเงินเพื่อจะให้ได้ตัวละคร/อาวุธเลเวลตันเพื่อที่จะเก่งกว่า แต่เทรนด์ของตัวละครใหม่ที่ชาวคอมมูนิตี้บอกกันอย่างพร้อมเพรียงว่ามักจะเก่งกว่าตัวเก่าๆ นั้นย้อนแย้งทฤษฏีที่กล่าวไป หรือว่าจุดนี้ก็เป็นอีกจุดหนึ่งของเกม Genshin Impact ที่ต้องการให้ผู้เล่นมีตัวละครเยอะ (เติมน้อยๆ แต่เติมบ่อยๆ) และหลากหลาย ไม่ใช่มีหยิบมือแต่ตีแรงทุกตัว (เติมทีเดียวตังหมด)

เพราะหากว่าผู้เล่นต้องการปลดล็อคกลุ่มดาว Constellation (สำหรับตัวละคร) หรือระดับการขัดเกลา Refinement (สำหรับอาวุธ) ผู้เล่นก็จะจำเป็นจะต้องได้รับสิ่งเหล่านั้นจากการได้รับของเดิม ซึ่ง 99% ของการปลดล็อคกลุ่มดาวก็จะได้มาจาการอธิษฐานแล้วได้ตัวละครหรืออาวุธอันเดิม ซึ่งระดับการอัพเกรดนั้นมีสูงสุดถึงเลเวล 6 (สำหรับหมู่ดาว) และเลเวล 5 (สำหรับการขัดเกลา) และเมื่อเอาไปคำนวณกับความเป็นไปได้ที่จะได้ตัวซ้ำ (ซึ่งก็มีน้อยนิด) แล้ว ก็จะทำให้การอัพเกรดตัวละครในลักษณะนี้มีราคาที่ต้องจ่ายที่สูงมาก

ภาพประกอบจาก Genshin Impact: How to upgrade your character’s Constellations guide – Polygon

หากคำนวณเล่นๆ หากว่าผู้เล่นสามารถได้รับตัวละครทุกๆ 70 โรล และเราต้องการตัวละคร 5 ดาวหลัก

ปลดล็อคกลุ่มดาว / ราคาค่าต่ำสุด
(1 โรล/กลุ่มดาว)
ค่ากลาง
(70 โรล/กลุ่มดาว)
ค่าสูงสุด
(180 โรล/กลุ่มดาว)
0
(ได้รับตัวละคร)
160
= 76.8 บาท
11,200
= 5,488 บาท
28,800
= 14,112 บาท
132022,40057,680
2
(ค่าการโจมตีตัวละคร +3)
48033,60086,560
364044,800115,440
480056,000144,320
5
(ค่าการโจมตีตัวละคร +3)
96067,200173,200
611,200
= 548.8 บาท
78,400
= 38,416 บาท
202,080
= 98,784 บาท
(หน่วย : Primogems) อัตราแลกเปลี่ยน 0.49 บาทต่อ Primogems

จากที่เพื่อนๆ เห็น ก็ถือว่าราคาที่ต้องจ่ายถือว่าแพงมากๆ สำหรับการปลดล็อคกลุ่มดาวจนถึงกลุ่มดาวที่ 6 (C6 หรืออัพตัน) แต่สำหรับผู้เล่นที่คิดว่าจะลงทุนกับตัวละครใดตัวละครหนึ่ง ก็อาจจะต้องตัดสินใจหน่อยนะครับว่าจะเผื่อไว้สำหรับตัวละครในอนาคต หรือว่าจะอัพตันให้กับตัวละครที่ตนเองชอบและใช้เป็นหลัก

หรือเพื่อนๆ ที่ต้องการค่าสถานะ +3 ที่มีให้ในกลุ่มดาวที่ 2 และกลุ่มดาวที่ 5 ก็ยังจำเป็นที่จะต้องใช้เงินจำนวนหนึ่งเช่นกัน แต่ผู้เล่นก็จะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงมากเป็นพิเศษหากอัพเกรดตัวละครให้ถึงกลุ่มดาว โดยหากว่าผู้เล่นคนไหนอยากที่จะอัพเกรดให้ตัวละครตีแรงขึ้นแต่ก็ไม่ได้อยากใช้เงินมากขนาดนั้นก็สามารถหยุดอธิษฐานตัวละครที่กลุ่มดาวที่กล่าวมาแทน

ให้ความสำคัญกับการเข้ามาเล่นทุกวัน

แม้ว่าราคาในการอธิษฐานตัวละครจะแพงมากก็ตาม แต่ภายในเกมจะมี “สมัครสมาชิกรายเดือน” ด้วยการให้ผู้เล่นซื้อ ‘The Blessing of the Welkin Moon’ ที่จะมอบ 300 Genesis Crystal (เทียบเท่ากับ 300 Primogems) ให้ผู้เล่นทันที และ 90 Primogems ทุกวันสำหรับการล็อกอินเข้ามาเล่นเกม รวมทั้งหมด 30 วัน โดยก็จะได้ทั้งหมด 2,700 Primogems หากผู้เล่นล็อกอินทุกวัน หรือเทียบเท่ากับการเติมเงิน 1,319 บาท ในราคาเพียง 149 บาทเท่านั้น

แต่นั่นก็ต้องแลกด้วยการให้ผู้เล่นสายประหยัด ผู้เล่นก็อาจจะต้องเข้าไปเล่นเกมเพื่อรับ Commission ที่จะได้รับอีก 60 Primogems และเมื่อบวกกับที่ได้จาก The Blessings of Welkin Moon แล้วก็จะได้ทั้งหมด 150 Primogems (หรือเกือบ 1 สิทธิ์การอธิษฐาน) ต่อวันได้อย่างสบายๆ

แต่มาเล่นในแต่ละวันน้อย ๆ หน่อย

เพื่อได้รับระดับค่าประสบการณ์ผู้เล่น (Adventure Level) ผู้เล่นสามารถเลือกที่จะตีมอนสเตอร์หรือบอสและรับ Adventure XP เพื่อเอาไปเพิ่มระดับความยากของมอนสเตอร์ (หรือในเกมเรียกว่า World Level หรือระดับความยากของโลก) ซึ่งจะมีผลโดยตรงต่อเลเวลตัวละครที่เราจะสามารถอัพเกรดได้สูงขึ้น หรือของที่ดรอปโดยมอนสเตอร์ก็จะเยอะขึ้นและระดับสูงขึ้นอีกด้วย

แต่วิธีที่ง่ายที่สุดและได้มากที่สุดก็ยังเป็นการเข้ามาเล่นเกมและทำเควสท์รายวัน (Daily Commission) ที่มีทั้งหมด 4 อันต่อวัน โดยภายในหนึ่งเควสท์รายวันนั้นก็จะมีความแตกต่างกันออกไป อย่างเช่นการเคลียร์ป้อมปราการ การป้องกันโทเทมจากการโดนโจมตี การไปหาของให้กับตัวละครเป็นต้น ซึ่งบอกเลยว่าไม่ยากและยังไงผู้เล่นก็จะต้องทำภารกิจประเภทนี้เพื่อเล่นสตอรีไลน์อยู่แล้ว

โดยหากว่าผู้เล่นสามารถทำได้สำเร็จครบ 4 เควสท์แล้ว ผู้เล่นก็จะได้รับทั้งหมด 1,500 Adventure XP ซึ่งเยอะเพียงพอที่จะทำให้ผู้เล่นสามารถไปถึงระดับสูงได้เพียงการเล่นหนึ่งเดือน วันละหนึ่งชั่วโมงเท่านั้น

ถ้าสรุปกันง่ายๆ ก็หมายความว่าระดับของผู้เล่นไม่ได้เกี่ยวข้องกับเงินที่เติม หรือจำนวนชั่วโมงที่เล่น แต่เป็นความมุ่งมั่นในการเล่นและความสม่ำเสมอในการเข้ามาเล่นทุกวัน

หน้าต่างภารกิจรายวัน

ไม่ตั้งใจเก่งก็เก่งได้ แต่ขอให้พยายาม

สำหรับผู้เล่นสายฟรีก็ไม่ต้องเครียดอะไรไป ถ้าไม่ได้มีเงินไปอธิษฐานพร เพราะว่า Primogems นั้นก็จะมีแจกให้อยู่แล้วเมื่อทำภารกิจในอีเว้นท์จำกัดเวลา ทำเควสท์ประจำวันสำเร็จ ฯลฯ ซึ่งนั่นก็จะเพียงพอให้ผู้เล่นสามารถเอา Primogems ไปอธิษฐานแลกตัวละครหรืออาวุธอย่างแน่นอนอย่างน้อย 1 ตัวต่อเดือน

โดยเมื่อเราเกมนี้ไปเปรียบเทียบกับเกมชื่อดังในอดีตที่อยู่ในประเภทเกม RPG เหมือนกัน เราก็จะเห็นว่าผู้เล่นจะได้ความยืดหยุ่นในการเล่นเกม ไม่ใช่การได้เปรียบกับผู้เล่นคนอื่น ซึ่งความยืดหยุ่นที่ได้นั้น หากว่าเราจะมองว่าเป็นความได้เปรียบก็สามารถทำได้เช่นกัน แต่ความแตกต่างเยอะขนาดนี้ก็จะทำให้เราไม่สามารถเปรียบเทียบกันได้อย่างแน่นอนเพราะมีข้อดีข้อเสียต่างกัน ดังนั้นความเก่งในทีมตัวละคร ทั้งผู้เล่นสายฟรีกับผู้เล่นสายเติมก็จะไม่ได้มีความแตกต่างอะไรกันมากนัก แค่ตัวละครของผู้เล่นที่เติมก็จะเหมาะกับสไตล์การเล่นในสถานการณ์ต่างๆ ได้ดีกว่าเท่านั้นเอง

ไม่บังคับเติม แต่ก็อยากให้เติม

หนึ่งในความสำเร็จของเกมเติมเงินชื่อดังนั่นก็คือเรื่องของสกินของตัวละครหรืออาวุธ ซึ่งภายในเกม Genshin Impact นั้นก็มีเช่นเดียวกัน โดยเป้าหมายของการใช้สกินนั้นก็คือจะทำให้ผู้เล่นรู้สึกดีในการใช้ตัวละครนั้นๆ เหมือนเกมแต่งตัวทั่วไป แต่ก็จะต้องเสี่ยงกับว่าผู้เล่นจะเอาพวกสกินนั้นมาสร้างความได้เปรียบในการเล่น

ซึ่ง Genshin Impact นั้นถูกออกแบบมาเพื่อสู้กับสภาพแวดล้อม ดังนั้นการขายสกินจึงไม่สร้างความได้เปรียบในการเล่น แต่ Genshin ก็ยังเลือกที่จะขายสกิน และมีการกระตุ้นผู้เล่นให้ซื้อสกินแม้ว่าผู้เล่นจะยังไม่มีตัวละครนี้ก็ตาม ผ่านการจัดอีเว้นท์หรือให้ผู้เล่นเห็นตัวละครที่ใส่ชุดพวกนี่บ่อยๆ ในสตอรีไลน์หลักที่ผมเชื่อว่าทุกคนจะต้องเข้าไปเล่นเป็นอย่างแน่นอน

มีระบบ End-game ที่ไม่มีที่สิ้นสุด

อีกส่วนหนึ่งที่จะทำให้ตัวละครของผู้เล่นที่เลเวลตันแล้วเก่ง ก็คือเรื่องของการเลือกใช้อาร์ติแฟค (Artifact) ที่ผู้เล่นสามารถฟาร์มได้จากบอสหรือโดเมน (ดันเจี้ยน) ระดับสูง ซึ่งอาร์ติแฟคเองเป็นหนึ่งในตัวแปรอีกครึ่งหนึ่งของความแรงในการโจมตีของตัวละคร และหาซื้อด้วยเงิน (ทั้งจริงและในเกม) ได้ ผู้เล่นต้องเข้าดันเจียนเพื่อฟาร์มอาร์ติแฟคตามประเภทที่ผู้เล่นต้องการเอง

ผู้เล่นระดับสูงจะมีความได้เปรียบจาก World Level ที่สูง (ซึ่งตัวแปรมาจาก Adventure Level) ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่การเข้าดันเจี้ยนจะดรอปอาร์ติแฟคระดับสูงสุด (สีทอง) นั้นเท่ากับ 90% เลยทีเดียว ดังนั้นผู้เล่นระดับสูงที่ต้องการที่จะเก่งขึ้น ก็จำเป็นจะต้องฟาร์มอาร์ติแฟค เพื่อให้ได้ความได้เปรียบจากค่าสถานะที่อาร์ติแฟคอันนั้นๆ มี

ก็ยังเป็นในเรื่องของการเกลือในอาร์ติแฟคอีกด้วย ที่จะเพิ่มงานให้กับผู้เล่นด้วยการไปหาฟาร์มอาร์ติแฟคใหม่อีกครั้งเพื่อได้รับอาร์ติแฟคที่มีคุณลักษณะตามที่ผู้เล่นต้องการ

ตอกย้ำการจำกัดสิ่งที่คุณทำได้ในหนึ่งวัน

ก่อนที่จะไปรับของรางวัลในการเข้าไปตีดันเจียนหรือบอสระดับยากๆ นั้นก็จะต้องใช้ Original Resin ที่จะมีการเติมให้ผู้เล่นทุกๆ 8 นาที ดังนั้นผู้เล่นที่ต้องการจะรับรางวัล ก็จะต้องแลก 20 Original Resin เพื่อจะรับทั้ง Adventure XP และสิ่งของที่ดันเจียนนั้นแจก หรือก็คือทุกๆ 2.67 ชั่วโมงก็จะสามารถรับรางวัลจากดันเจียนได้หนึ่งครั้ง

และการเติมนี้ก็ยังมีที่เก็บที่จำกัดอีกด้วย ซึ่งผู้เล่นสามารถถือ Original Resin ได้สูงสุดได้ที่ 160 Original Resin เท่านั้น แต่ภายในหนึ่งวัน (24 ชั่วโมง)​ ผู้เล่นจะสามารถได้รับได้สูงสุดที่ 180 Original Resin ซึ่งนั่นก็หมายความว่า

  1. ผู้เล่นรอแค่ 21.3 ชั่วโมงเพื่อจะเติม Original Resin ให้เต็ม
  2. ผู้เล่นต้องรอ 21.3 ชั่วโมงเพื่อจะได้รับ 800 Adventure XP (หรือ 5 AEP ต่อ 1 Original Resin)

และข้อสองนั่นเอง ก็คือจุดที่จะเอาไว้จำกัดผู้เล่นไม่ให้มีเลเวล Adventure XP มากจนเกินไป ซึ่งการมีเลเวล Adventure Rank ที่สูง ก็จะปลดล็อคการยกระดับ (Ascension) เพื่ออัพตัวละคร และ อัพอาวุธ ที่อาจจะทำเก่งเกินไปและเล่นคอนเท้นท์ที่อยู่ในการพัฒนามาได้อย่างง่ายดาย

ในอดีต เกม Genshin Impact เองก็จะเพิ่มเรทในการเติม Original Resin อีกครั้ง (ซึ่งในอดีตเคยจำกัดไว้ที่ 120 Original Resin) เพื่อรองรับการอัพเกรดตัวละคร ซึ่ง ณ​ ตอนนั้นคือมีการเพิ่มคอนเท้นท์ขนาดใหญ่อย่างเมือง Liyue ให้เล่นแล้ว ทำให้ผู้พัฒนาเกมไม่จำเป็นต้องจำกัดปริมาณ Original Resin เหมือนเดิมอีกต่อไป

อีกเช่นกัน ที่ผู้เล่นก็จะสามารถเติมเงินเพื่อแลกเป็น Original Resin ด้วยการซื้อ/ใช้ Condensed Resin ซึ่งมีค่าใช้จ่ายที่สูงมากๆ และการอัพเกรดเกินเลเวล 50+ นั้นก็จะไม่มีผลต่อการเล่นเลยอีกด้วย ทำให้ผู้เล่นจำนวนมากเลือกที่จะเปลี่ยนแนวการเล่นไปเพื่อฟาร์มอาร์ติแฟคเพื่อเอาไปขายหรือเปลี่ยนสถานะนิดๆ น้อยๆ มากกว่าการสร้างความได้เปรียบในตัวละคร​ (เพราะติดเลเวล Adventure Rank)


ข้อมูลอ้างอิง

  • ราคา Genesis Crystal อ้างอิงจากเว็บไซต์ Genshin Impact
  • ข้อมูลอื่นๆ อ้างอิงจาก Genshin Impact Wiki

1 ราคา Primogems คำนวณจากราคาแพ็ค Genesis Crystal ต่ำสุด (ไม่รวมโปรโมชัน x2 จากการเติมครั้งแรก)

โดย 160 Primogems หรือเท่ากับ ~79 บาทไทย คำนวณจากราคาแพ็ค 300 Genesis Crystal ในราคา 149 บาทไทย (เทียบเท่ากับ 0.4967 บาทไทย ต่อ 1 Primogems)

โดย 2,700 Primogems หรือเท่ากับ 1317 บาทไทยคำนวณจากราคาแพ็ค 3280 Genesis Crystal ในราคา 1600 บาทไทย (เทียบเท่ากับ 0.4878 บาทไทยต่อ 1 Primogems)

โฆษณา

Share this post

About the author