ในวันนี้ ทาง Ethereum ได้ทำการประกาศความสำเร็จในการรวม (Merge) ตัวเชนใหม่ (Beacon Chain) เข้าสู่ Main Net (เชนเดิม) ทำให้ Ethereum เปลี่ยนไปใช้งานเป็น Proof of Stake (PoS) ได้อย่างสำเร็จเรียบร้อยแล้ว โดยคาดว่าจะลดอุปทานด้วยการใช้วิธี Staking และประหยัดพลังงานมากขึ้นถึง 99.95%

ซึ่งการ Merge ครั้งนี้จะสร้างแรงกระเพื่อมกับวงการ Cryptocurrency อย่างแน่นอน เพราะปัจจุบัน Ethereum เป็นอันดับสองของเหรียญรองจาก Bitcoin ที่ถูกใช้งานกันในรูปแบบ Store of Value ดั่งทองกันไปแล้ว

เนื่องจากว่า Ethereum ที่เริ่มต้นโปรเจ็กต์กันในปี 2015 นั้นมีการใช้ระบบ Proof of Work (PoW) ซึ่งทำให้ระบบคอมพิวเตอร์แย่งกันทำงานเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ มากกว่าการทำงานร่วมกันเพื่อคำนวณผลลัพธ์ จึงทำให้การใช้พลังงานของระบบ Blockchain นั้นมีความยากมากขึ้น ซึ่งส่งผลต่อการตั้งราคาต้นทุนค่าธรรมเนียมหรือที่เรียกกันว่าค่า Gas ที่ปรับตัวสูงขึ้นจนเกิน $100 ต่อการทำธุรกรรมบน Mainnet ในช่วงเดือน 2019

โฆษณา

การปรับมาใช้เป็น Proof of Stake (PoS) ของ Ethereum นั้น ผู้ใช้งานไม่จำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนเหรียญมาเป็น Ethereum 2.0 หรือเหรียญอื่น เนื่องจากมีการโอนข้อมูลและประวัติทางธุรกรรมการโอนทั้งหมดมาอยู่บน Chain ใหม่เป็นที่เรียบร้อย รวมไปถึงการตรวจสอบใด ๆ เพิ่มเติม เพราะระบบไม่มีการเปลี่ยนระบบการทำธุรกรรมแต่อย่างใด มีแต่เพียงการปรับวิธีการตรวจสอบธุรกรรม (ที่เปลี่ยนจากการขุด (Mining) มาเป็นการ Stake)

โดย Ethereum แบบ Consensus Layer ใหม่นี้ แม้ว่าจะมีการดีเลย์กันไปตั้งแต่ปี 2020 แต่ก็ถือว่าดีกว่าไม่มาหล่ะครับ 😀

ข้อมูลอ้างอิง
โฆษณา

Share this post

About the author