กลับมาอีกแล้วสำหรับ iPhone ราคาย่อมเยาว์กับ iPhone SE ที่วันนี้ทาง Apple ได้ทำการอัพเกรดยกเครื่องที่จะมาพร้อมกับประสิทธิภาพระดับเทพฯ ที่อยู่ภายใน iPhone 13 มาให้ครบถ้วน แต่ใครที่ใช้งาน iPhone SE ก็จะได้ความรู้สึกเดิม ในฟอร์มแฟกเตอร์ความรู้สึกคุ้นเคยแบบ iPhone 6
อ่านต่อฉบับเต็ม
Apple ได้ทำการเปิดตัวสินค้าใหม่อย่าง iPad Air Gen 5, iPhone SE, iPhone 13 สี Alpine Green, ชิพประมวลผล M1 Ultra, Mac Studio, Studio Display และชุดคีย์บอร์ดสีเงิน-ดำ ภายในงาน "Peek Perfomance"
อ่านต่อได้ที่ https://byteside.one/th/tech/peek-performance-recap-apple/
สมาร์ทโฟนระดับท็อปราคาย่อมเยาว์ “iPhone SE”
เปิดตัวแล้วในงานเปิดตัว “Peek Performance” ที่มาพร้อมกับ iPhone รุ่นเริ่มต้นสำหรับผู้ใช้งานทั่วไปอย่าง iPhone SE แต่ในครั้งนี้ได้มาพร้อมกับฟีเจอร์และความสามารถสุดเด่นที่ใคร ๆ ก็ไม่สามารถต้านทานได้
iPhone SE เรียกว่าเป็นคู่แข่งกับตลาดสมาร์ทโฟนที่ใช้ Android หรือ OS อื่น ๆ มานานหลายปีแล้ว แต่ในครั้งนี้ก็ถึงเวลาที่จะได้รับพลังจาก ชิพประมวลผล Apple A15 Bionic ใหม่ล่าสุดไปเต็ม ๆ
ฟีเจอร์ที่น่าสนใจ
- ชิพประมวลผล Apple A15 Bionic ใหม่ล่าสุด
- กันน้ำกันกระแทกเทียบเท่า iPhone 13 Pro
- กล้องหลัง กล้องไวด์ความละเอียด 12MP ซูมดิจิทัลได้สูงสุด 5 เท่า
- กล้องหน้า กล้องความละเอียด 7MP พร้อมโหมดภาพถ่ายบุคคลพร้อมโบเก้ที่สมจริงและการควบคุมระยะชัดลึก
- รองรับ 5G
- หน้าจอ 4.7 นิ้ว
โดย iPhone SE จะรองรับการใช้งานเครือข่าย 5G รวมไปถึงการเลือกใส่ Apple A15 Bionic ที่จะทำให้ผู้ใช้งาน iPhone SE จะได้ใช้งาน Neural Engine ที่แรงที่สุดและได้รับอัพเกรด iOS ไปได้ยาว ๆ อย่างน้อย 4 ปีเต็ม
รวมไปถึงการเพิ่มมาของหน้าจอกันกระแทกที่ดีที่สุดอย่าง Ceramic Shield (เทียบเท่ากับ Gorilla Glass) และการกันน้ำและฝุ่นระดับ IP67 ที่หมายถึงว่าตัวเครื่องสามารถป้องกันความเสียหายจากการจมน้ำได้สูงสุด 1 เมตรเป็นเวลา 30 นาที แต่ก็จะมาพร้อมการใช้งาน Touch ID พร้อมกับหน้าจอเหมือนเดิมจากในปีที่แล้ว
ตัวเลือกสีใน iPhone SE
โดยในปีนี้ ทาง Apple ก็มีให้เลือกสีสำหรับ iPhone SE ทั้งหมด 3 สีเท่าเดิมได้แก่ สีดำ “มิดไนท์”, สีขาว “สตาร์ไลท์” และสีแดง “(Product RED)”
ราคาและตัวเลือกพื้นที่จัดเก็บใน iPhone SE
สำหรับ iPhone SE จะมีให้เลือกอยู่ทั้งหมด 3 พื้นที่ความจุ ได้แก่ 64 GB, 128 GB, 256 GB โดยทาง Apple ได้ทำการประกาศราคาสำหรับประเทศไทย เริ่มต้นที่ราคา 15,900 บาทเอาไว้แล้วดังนี้
- 64 GB ราคา 15,900 บาท
- 128 GB ราคา 17,900 บาท (เพิ่ม 2,000 บาท)
- 256 GB ราคา 21,900 บาท (เพิ่ม 4,000 บาท)
จองล่วงหน้าได้แล้ววันที่ 18 มีนาคมนี้เป็นต้นไป
โดยผู้ที่สนใจต้องการจับจอง iPhone SE มาเป็นครอบครอง ก็สามารถเขช้าไปจองกันได้ที่เว็บไซต์ของ Apple (https://www.apple.com/th/shop/buy-iphone/iphone-se/) ได้ตั้งแต่วันที่ 18 มีนาคม 2565 เวลา 09:00 น. และจะเริ่มการจัดส่งในวันที่ 25 มีนาคม 2565
โดยทาง Apple ได้มีโปรโมชันในการผ่อน 0% สูงสุด 10 เดือน สำหรับบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ (อ่านรายละเอียดได้ที่นี่)
ส่วนการจองผ่านร้านค้าอื่นที่จัดจำหน่ายสินค้า Apple รวมไปถึงค่ายมือถือก็สามารถติดตามข้อมูลและรายละเอียดเกี่ยวกับการจองได้เลย โดยจะเปิดจัดส่งสินค้าในวันที่ 25 เช่นเดียวกัน
รับชมวิดีโอการเปิดตัว
ข้อมูลอ้างอิงและภาพประกอบ
- Apple เปิดตัว iPhone SE ใหม่: สมาร์ทโฟนที่ทรงพลังในดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ – Apple (TH)
- The new iPhone SE | A15 Bionic + 5G | Apple – YouTube