เพิ่งใช้ Telegram แล้วยังไม่รู้ว่ามันทำอะไรได้? หรืออยากจะใช้งานให้เหมือนมือโปรฯ วันนี้เราก็จะมาแนะนำ 9 ฟีเจอร์สุดเด็ดที่ใคร ๆ ก็ห้ามพลาด ทั้งฟีเจอร์ที่มีเฉพาะใน Telegram เลย หรือจะมีฟีเจอร์ทีเหมือนแอพฯ แชทที่คุ้นเคยอย่าง Line, Whatsapp และ Facebook Messenger กันครับ
Telegram คืออะไร?
Telegram คือแอพลิเคชันแชทที่มีฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลายที่มุ่งเน้นเรื่องความเร็วในการใช้งาน พร้อมกับการป้องกันข้อมูลด้วยการเข้ารหัสข้อความด้วยระบบของ Telegram “MTProto Encryption” โดย Telegram ก่อตั้งโดย Pavel Durov และ Nikolai Durov สองพี่น้องผู้ก่อตั้งโซเชียลมีเดียชื่อดังสัญชาติรัสเซียอย่าง “VK” ในปี 2013 และในปัจจุบัน Telegram นั้นก็ได้มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองดูใบ, ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (United Arab Emirates) พร้อมกับการให้บริการผู้ใช้งานทั่วโลกผ่านระบบเซิฟเวอร์ที่กระจายอยู่ในหลายประเทศ
อ่านต่อฉบับเต็ม
สำหรับเพื่อน ๆ ที่ต้องการอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Telegram และมันดีกว่า Line หรือ Messenger อย่างไรก็สามารถอ่านได้ที่สตอรี: แนะนำ Telegram แอพแชทลับสุดยอด: ดีกว่า Line หรือ Facebook Messenger อย่างไร?
6 ฟีเจอร์น่าลอง! มีเฉพาะบน Telegram
นอกเหนือจากการใช้งานแอพฯ Telegram ในการพูดคุยกับเพื่อนฝูงหรือแบ่งปันความคิดเห็นในกลุ่มได้เหมือนแอพแชทอื่น ๆ แล้ว Telegram เองก็ยังมีฟีเจอร์และสิ่งที่น่าสนใจที่มากกว่าแอพแชทอื่น ๆ มากมายที่วันนี้เราก็อยากจะมานำเสนอให้คุณกัน ว่าจะมีอันไหนที่จะทำให้คุณหลกรัก Telegram มากขึ้น
ฟีเจอร์การใช้งานของ Telegram เองก็ถือว่ามีให้เลือกใช้งานอย่างมากมาย ทั้งฟีเจอร์การโทรกลุ่ม (หรือที่ Telegram เรียกว่า Group Audio Call) ที่สามารถนำไปใช้งานในลักษณะ Podcast อย่างแอพ Clubhouse หรือ Discord ทั้งในกลุ่มและแชนแนล เช่นกันกับที่สติกเกอร์ดุ๊กดิ้กที่ผู้ใช้งานสามารถอัพโหลดแพ็กสติกเกอร์หรือหาดาวน์โหลดจากแชทเพื่อน, ผ่านภายในแอพ หรือเว็บไซต์ที่แจกสติกเกอร์ได้ด้วยตนเองโดยไม่ต้องกลัวไวรัสหรือเปลืองพื้นที่จัดเก็บเครื่อง ซึ่งทั้งหมดนี้เราก็จะมาแนะนำกันในสตอรีนี้ครับ
พื้นที่จัดเก็บแชทและไฟล์ไม่จำกัด
สำหรับฟีเจอร์นี้ (จริง ๆ แล้วน่าจะเรียกว่าบริการเสียมากกว่า) นั้นได้เรียกเสียงฮือฮาเป็นจำนวนมากจากผู้ใช้งานที่เคยมีปัญหาการส่งไฟล์ขนาดใหญ่แล้วดันส่งไม่ได้ โดย Telegram เองนั้นจะมีพื้นที่จัดเก็บแชทและรูปบนคลาวด์ ทำให้เมื่อคุณทำโทรศัพท์หายหรือใช้งานบริการในอุปกรณ์อื่น คุณเองก็จะสามารถเรียกอ่านแชทย้อนหลังได้ตลอดเวลาและง่ายดายอีกด้วย
และนอกจากนี้ การส่งไฟล์และรูปภาพก็ให้แบบจุก ๆ ไปเลย 5GB ต่อไฟล์ ใช่ครับ! นั่นหมายความว่า 5 GB ต่อไฟล์ ไม่ใช่ต่อบัญชีผู้ใช้งานหรือต่อแชท! ทั้งไฟล์รูป ไฟล์วิดีโอ ไฟล์งาน ไฟล์ PDF และประเภทอื่น ๆ อีกมากมาย ก็ส่งเป็นข้อความหรือไฟล์แนบบน Telegram ได้ฟรีเลย 5 GB
อีกทั้งทาง Telegram นั้นก็จะมีการเก็บไฟล์ไว้บนคลาวด์อยู่แล้ว และไม่มีการลบข้อความเองเมื่อผ่านไประยะเวลาหนึ่ง ไฟล์ที่เพื่อน ๆ เคยส่งไปเมื่อ 6 ปีที่แล้วก็น่าจะยังถูกเก็บอยู่บน Telegram เช่นเดิม ไม่หายหนีไปทั้งสิ้น
People Nearby
ฟีเจอร์นี้ถูกสร้างขึ้นมาสำหรับใครที่กำลังเหงา ๆ ต้องการหาผู้ใช้งานหรือกลุ่มผู้ใช้งานที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียง (เช่น อยู่ในพื้นที่สามย่านเหมือนกัน) ก็จะสามารถมาพบเจอและพูดคุยกันในกลุ่มได้ผ่านฟีเจอร์ People Nearby
นอกจากนี้เพื่อน ๆ ก็สามารถที่จะเข้าร่วมไปเป็นส่วนหนึ่งของฟีเจอร์ People Nearby ได้ ทั้งการสร้างกลุ่มในพื้นที่ “Local Group” และการเปิดให้ผู้ใช้งานอื่นสามารถเห็นเราในแอพฯ เมื่ออยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงได้
สำหรับวิธีการใช้งานก็ง่ายนิดเดียว เพียงทำการเข้าไปยังหน้าเมนู People Nearby > เปิด GPS / Location และให้แอพฯ ทำการค้นหาผู้ใช้งานหรือกลุ่มผู้ใช้งานที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงกัน และก็สามารถใช้งานด้านการแชทได้ตามปกติเลยครับ
อ่านต่อฉบับเต็ม
สำหรับวิธีการใช้งานฟีเจอร์ People Nearby ก็สามารถเข้าไปอ่านได้ที่สตอรี: ค้นหากลุ่ม Telegram ใกล้เคียงผ่านฟีเจอร์ People Nearby
ตั้งเวลาส่งข้อความ
หลาย ๆ คนอาจจะอยากที่จะตั้งส่งข้อความในเวลาที่ต้องการ เช่นการส่งเพื่อเตือนคู่สนทนาหรือกลุ่ม ในฟีเจอร์ใน Telegram อันนี้เราก็สามารถทำการตั้งเวลาเพื่อส่งข้อความ เช่นให้ส่งในเวลา 08:00 พรุ่งนี้ ก็สามารถทำได้ หรืออีกสัปดาห์หนึ่งก็ได้เช่นกัน
วิธีการส่งข้อความในลักษณะตั้งเวลานั้นสามารถทำได้ด้วยตนเอง เมื่อเพื่อน ๆ ทำการพิมพ์ข้อความในช่องข้อความ ก่อนที่จะทำการกดส่งข้อความด้วยการกดปุ่ม “ส่งข้อความ” ให้เราทำการกดปุ่มส่งข้อความค้าง และตัวเลือกการส่งข้อความในลักษณะตั้งเวลาก็จะแสดงขึ้นมาให้เรา หลังจากนั้นให้เราทำการระบุเวลาที่ต้องการส่งข้อความ และกดส่งเพื่อให้ข้อความนั้นส่งในเวลาที่เรากำหนด
เลือกส่งข้อความแบบเงียบ ๆ 🤫
นอกจากการส่งข้อความแบบตั้งเวลาเพื่อไม่ให้รบกวนผู้ใช้งานอื่นแล้ว อีกหนึ่งตัวเลือกการส่งข้อความที่มีเฉพาะใน Telegram นั่นก็คือการส่งข้อความแบบเงียบ ที่ผู้รับข้อความนั้นจะไม่ได้รับข้อความการแจ้งเตือนบนเครื่องใด ๆ ทั้งสิ้น แต่ข้อความจะมาแจ้งเตือนขึ้นเมื่อผู้รับข้อความนั้นได้เข้าใช้งาน Telegram ทันที
ทำให้ใครที่อาจจะรู้สึกผิดและไม่อยากจะรบกวนช่วงเวลาสำคัญของผู้รับข้อความ แต่ก็อยากจะสื่อสารกับผู้อ่าน ก็สามารถลองใช้งานฟีเจอร์การส่งข้อความแบบเงียบได้ด้วยการกดปุ่มส่งข้อความค้างเอาไว้ และเลือกที่ตัวเลือกการจัดส่งข้อความเป็นในรูปแบบ “เงียบ”
โฟล์เดอร์แชท
สำหรับฟีเจอร์นี้น่าจะเหมาะสำหรับใครที่แชทหลาย ๆ กลุ่มหรือหลายคนพร้อม ๆ กัน ด้วยฟีเจอร์การแยกประเภทแชทออกมาเป็นรูปแบบของโฟล์เดอร์ (หรือจะมองว่าเป็นประเภทแชทก็ได้นะ) เช่นการแยกแชทประเภทเพื่อนสนิทเอาไว้กลุ่มหนึ่ง และแยกกลุ่มที่เอาไว้คุยงานเอาไว้อีกกลุ่มหนึ่ง หรือเพื่อน ๆ จะแยกตามเงื่อนไขอะไรก็ได้ตามใจเลย
ซึ่ง Telegram ก็ได้เตรียมประเภทการกรองแชทเอาไว้แล้ว (เช่น แชทประเภทสองต่อสอง แชทประเภทกลุ่ม แชทประเภทกลุ่มในครอบครัว เป็นต้น) และเราก็สามารถทำการสร้างตัวกรองตามความต้องการเพื่อให้ Telegram สามารถแยกแต่ละกลุ่มออกจากกันได้โดยอัตโนมัติ ไม่จำเป็นที่จะต้องใช้เพื่อน ๆ มานั่งแยกเองทีละแชทอีกต่อไป
สำหรับฟีเจอร์นี้ เพื่อเริ่มใช้งานก็สามารถเข้าไปที่หน้า “การตั้งค่า” > เลือกที่หัวข้อ “โฟล์เดอร์แชท” > และทำการกดสร้างโฟล์เดอร์ใหม่ได้เลย หลังจากนั้นเราก็จะสามารถสร้าง Blacklist – Whitelist ของแต่ละโฟล์เดอร์ได้เลย
ใช้งานสติกเกอร์และดาวน์โหลดสติกเกอร์
เหนือชั้นเข้าไปอีก สำหรับเรื่องของสติกเกอร์ที่อยู่ภายในแอพ Telegram ที่นอกเหนือจากว่าภายในแอพจะมีหน้าแอพฯ ให้ดาวน์โหลดสติกเกอร์เอาไปใช้งานแล้ว เพื่อน ๆ ก็ยังสามารถเอาสติกเกอร์นั้นไปใช้งานในอุปกรณ์อื่นได้ทันที โดยไม่ต้องโหลดอะไรเพิ่มเติมเลย
อีกทั้งเมื่อเราไปเจอสติกเกอร์ที่เราชอบใจ แม้ว่าจะมาจากร้านค้าหรือว่าอัพโหลดโดยผู้ใช้งานเองก็ตาม เมื่อเราทำการกดเข้าไปที่สติกเกอร์ก็จะมีตัวเลือกให้เรา “เก็บสติกเกอร์” และเอามาใช้งานได้เองเลย ไม่ต้องซื้ออีกต่อไป ทำให้ใครที่อยากเอาสติกเกอร์มาจากไหน หรือว่าไปทำสติกเกอร์ขึ้นมาเองก็สามารถทำได้อย่างง่ายดาย
เนื่องจากมันเป็นสติกเกอร์ที่ปล่อยออกสู่สาธารณะ เราก็จะสามารถพบเห็น “ร้านค้า” หรือ “เว็บรวบรวม” สติกเกอร์ที่น่าสนใจ ให้ใครที่อยากจะเอาสติกเกอร์พวกนั้นไปใช้งานก็สามารถคลิกที่ลิงก์ที่อยู่ภายในเว็บไซต์นั้น และเราก็สามารถเก็บสติกเกอร์เหล่านั้นได้เลย เพียงลงชื่อเข้าใช้งาน Telegram เอาไว้บนเครื่อง แล้วก็กดเข้าไปที่ลิงก์ที่เป็นสติกเกอร์ที่เราต้องการได้เลย
3 ฟีเจอร์อื่น ๆ ที่มีใน Telegram เช่นกัน
อีกสามฟีเจอร์ที่เราจะเอามาแนะนำกันในสตอรีนี้ แม้ว่าเพื่อน ๆ น่าจะเคยเห็นหรือเคยใช้มาในแอพฯ แชทชื่อดังอื่น ๆ แล้ว แต่สำหรับผู้ใช้งาน Telegram เองนั้นก็เพิ่งได้เปิดให้ใช้งานกันไม่นานนี้นี่เอง ที่นอกจากจะใช้งานตามที่หลาย ๆ คนน่าจะคาดหวังแล้ว ก็ยังสามารถเอาไปปรับใช้งานกับการใช้งานอื่น ๆ ได้อีก
นั่นทำให้เราอยากจะเอามาแนะนำ 3 ฟีเจอร์ที่เราได้ว่ามาให้เพื่อน ๆ ได้ลองเอาไปใช้งานดูและปรับแต่งได้เต็มที่ตามที่ต้องการ เผื่อลองแล้วจะติดใจ ไม่กลับไปใช้แอพฯ แชทอื่นเลยหล่ะ
แชทเสียงกลุ่ม
การแชทเสียงกลุ่มนั้น ก็จะมีความแตกต่างกันระหว่างการโทรฯ ผ่าน Telegram อยู่ประมาณหนึ่ง เพราะว่าการออกแบบแชทเสียงของ Telegram นั้นถูกสร้างมาเพื่อตอบโจทย์ที่แตกต่างกัน แต่ก็สามารถใช้งานควบคู่กันได้อย่างดี
แชทเสียงกลุ่มนั้นจะเปิดโอกาสให้หัวห้องแชทเสียง ที่เป็นผู้ใช้งานภายในกลุ่ม (ตามเงื่อนไขการให้อนุญาติของแต่ละกลุ่ม) ได้สามารถประกาศการสร้างแชทกลุ่ม เหมือนกับการสร้างห้องภายในแอพฯ ClubHouse อะไรประมาณนั้นเลย ทั้งการตั้งเวลาการเริ่มประชุม, การตั้งให้เปิดปิดไมค์, การแชร์หน้าจอ (ปัจจุบันรองรับการแชร์หน้าจอของ iOS และระบบปฏิบัติการอื่นแล้ว) และอิ่น ๆ อีกมากมาย
ทำให้ใครที่อยากจะเริ่มประชุมอะไรกันกับผู้ใช้งานในกลุ่มก็สามารถเริ่มแชทเสียงกลุ่มได้ด้วยตัวเองเลย และไม่เป็นการรบกวนผู้ใช้งานที่ไม่ว่างเข้าประชุมเพื่อให้เข้าแชทเสียงอีกด้วย
ทั้งหมดนี้ เพื่อน ๆ สามารถลองใช้งานได้แล้วกับทุกกลุ่มที่อยู่ภายใน Telegram (เฉพาะกลุ่มที่ผู้ใช้งานมีสิทธิ์ในการเริ่มแชทเสียงกลุ่มเท่านั้น)
ปักหมุดข้อความ
หลาย ๆ ครั้้งที่ผู้ใช้งานได้ทำการแชทระหว่างผู้ใช้งาน แล้วก็มักจะหลงลืม ๆ ว่าข้อความไหนสำคัญเป็นพิเศษ ในฟีเจอร์การปักหมุดข้อความที่อยู๋ภายในแอพฯ Telegram นี้ก็จะทำให้ข้อความที่เราได้ทำการปักนั้นอยู่บนมุมบนอยู่ตลอดเวลา และเราสามารถย้อนแชทกลับไปที่ข้อความนั้นได้เลยเพียงการกดไปที่หมุดข้อความเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม นอกเหนือจากการปักหมุดข้อความที่สามารถทำงานเหมือนแอพฯ Line จากที่ได้เล่าไปก่อนหน้าแล้ว เพื้่อน ๆ สามารถทำการปักหมุดข้อความกับข้อความที่เราต้องการได้ไม่อั้น และไม่จำกัดจำนวนด้วย ทำให้หนึ่งแชท (ทั้งกลุ่มและส่วนตัว) ก็จะสามารถมีการปักหมุดได้ไม่จำกัดจำนวนข้อความที่สามารถปักได้ และย้อนแชทหมุดข้อความได้เหมือนกัน
หากใครยังไม่รู้ว่า Telegram ทำอย่างนี้ได้แล้ว ก็ลองเอาไปใช้งานดูครับ เผื่อจะติดใจกันไม่มากก็น้อย
กด React ในข้อความ
ฟีเจอร์นี้ถือว่าเป็นฟีเจอร์ที่เพิ่งเปิดตัวมาใหม่ ๆ เลย ที่ผู้ใช้งานสามารถทำการกด React ข้อความที่ผู้อิ่นส่งให้ เหมือนใน Facebook Messenger และ Line ได้แล้ว และมี Reactions ให้เลือกใช้งานเต็มที่ไปเลยถึง 16 แบบ (น่าจะเพิ่มเป็นไม่จำกัดในอนาคต)
เพื่อกด React ที่ข้อความ ให้ผู้ใช้ทำการกดค้างที่ข้อความ และหน้าตัวเลือกข้อความพร้อมทั้่ง React ก็จะปรากฎขึ้นมาให้่กดได้เลย หรือว่าเพื่อน ๆ จะทำการ React อย่างรวดเร็วด้วยการกดที่ข้อความนั้นสองครั้งเพื่อกด React “ไลค์” ให้กับข้อความนั้น
ผู้ส่งข้อความก็จะเห็นและได้รับการแจ้งเดือนว่าคุณได้ทำการกด React ในข้อความที่คุณส่ง ทำให้การสื่อสารนั้นเป็นไปได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น และอาจจะแทนการค้นหาสติกเกอร์ที่เหมาะสมสำหรับการตอบกลับที่น่าสนใจเลย
