เคล็ดลับเพิ่มพื้นที่จัดเก็บ Nintendo Switch ได้อย่างไร?

Nintendo Switch ทุกเครื่องมีพื้นที่จัดเก็บภายใน (Internal Storage) ให้ผู้เล่นไปจำนวนหนึ่ง แต่ให้มาอย่างไรก็อาจจะไม่พอสำหรับผู้เล่นที่ชอบเล่นสลับระหว่างเกมหรือไม่ต้องการลบเกมออกจากเครื่อง แถมว่าในหนึ่งเกมนั้นอาจใช้พื้นที่จัดเก็บไฟล์เกมถึง 45 GB เลยทีเดียว การันตีได้เลยว่าไม่พอกับการใช้งานอย่างแน่นอน

แต่จะทำอย่างไรดีหล่ะ? ที่จะเพิ่มพื้นที่จัดเก็บไฟล์เกมให้ได้มากยิ่งขึ้น ในสตอรีนี้เราก็จะมาดูกันว่าจะเพิ่มพื้นที่จัดเก็บภายในและภายนอกเครื่องได้อย่างไรกับเคล็ดลับที่เราจะมาแชร์กัน

อ่านต่อฉบับเต็ม
สำหรับใครที่กำลังมองหา Nintendo Switch แต่ไม่รู้ว่าจะเลือกรุ่นไหนดีก็สามารถอ่านต่อได้ที่สตอรี : เปรียบเทียบ! Nintendo Switch, NS OLED, NS Lite ต่างกันอย่างไร?

เนื้อหาในสตอรีนี้

เคล็ดลับวิธีเพิ่มที่จัดเก็บให้กับ Nintendo Switch

ลบเกมที่ไม่ได้เล่นแล้ว

วิธีการง่าย ๆ ของการแก้ปัญหาพื้นที่จัดเก็บไม่พอก็คือการไม่ใช้ที่จัดเก็บนั่นเอง 😀 โดยแต่ละเกมนั้นก็ใช้พื้นที่มากพื้นที่น้อยก็สามารถเข้าไปตรวจสอบได้ที่หน้าการตั้งค่าของเกม > พื้นที่จัดเก็บ แต่สำหรับเกมที่ยังไม่ได้ดาวน์โหลดและกำลังอยากจะดาวน์โหลดก็สามารถตรวจสอบได้ที่ข้อมูลของเกมในหน้าร้านค้า eShop

คำเตือน
หากไม่ได้ทำการสำรองข้อมูลไว้ เซฟที่ผู้เล่นจะหายไปด้วยพร้อมกับตัวเกม อาจกู้คืนไม่ได้

ซื้อเกมเป็นแบบตลับ แทนการซื้อด้วย Nintendo eShop

แต่จากการรายงานจากผู้ใช้งาน Nintendo Switch บน Reddit ก็พบว่าการดาวน์โหลดเกมด้วยตลับเกม (เล่นผ่านตลับ) ใช้พื้นที่จัดเก็บนิดเดียวเท่านั้น เมื่อเทียบกับการดาวน์โหลดจาก Nintendo eShop ที่ต้องดาวน์โหลดเกมมาเก็บไว้บนเครื่อง ทำให้เครื่องเกมเองต้องมีหน้าที่เหลือเพียงการเก็บเซฟเกมเท่านั้น

ซื้อความจุเพิ่มด้วย SD Card

วิธีที่ผู้เล่นหลายคนที่ไม่อยากดาวน์โหลดเกมซ้ำจากตัวตลับเกม/อินเตอร์เน็ต รวมไปถึงการเก็บเซฟที่เล่นเสร็จแล้วและหวังว่าจะได้เอามาเล่นต่อก็คือการโอนเกมและเซฟไปเก็บไว้ที่ SD Card ที่เพื่อน ๆ สามารถนำไปติดไว้กับช่องอ่าน SD Card ของ Nintendo Switch และเพิ่มพื้นที่จัดเก็บโดยรวม

โดยเพื่อน ๆ สามารถหาซื้อ Micro SD Card ฟอร์แมท SDXC หรือ SDHC ได้ขนาดสูงสุดถึง 2TB (อ้างอิง Kingston.com) เพื่อนำไปใช้งานกับ Nintendo Switch ทั้งสามรุ่น (ปกติ, Lite, OLED)

โฆษณา

อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันยังไม่มี Micro SD Card ที่มีขนาด 2TB ขายในตลาด ทำให้ปัจจุบันขนาดพื้นที่ความจุสูงสุดที่ลูกค้าสามารถซื้อเพื่อขยายพื้นที่จัดเก็บอยู่ที่ 1TB แต่เราเองก็ไม่แนะนำว่าให้เพื่อน ๆ เก็บข้อมูลอะไรเยอะขนาดนั้นใน SD Card เพราะก็ยังมีความเป็นไปได้ว่า SD Card นั้นจะสูญหายหรือเสียระหว่างการใช้งานทั่วไป

แถมทางผู้ผลิต SD Card อย่าง SanDisk เองก็ได้มีการขาย Micro SD Card ลายแฟรนไซส์ Nintendo อย่าง Legends of Zelda, Super Mario และ Animal Crossing ด้วย (ตามภาพประกอบด้านล่าง) ให้เพื่อน ๆ ได้เลือกเชียร์บ้านที่ท่านชื่นชอบได้เต็มที่ พร้อมการรองรับการใช้งานกับ Nintendo Switch อย่างแน่นอน

แต่สำหรับใครที่ยังไม่มีเครื่อง Nintendo Switch ผมขอบอกได้เลยว่าคุณจะไม่รู้ได้เลยว่าจะมีปัญหาเรื่องพื้นที่จัดเก็บไฟล์ไม่พอหรือไม่ แล้วจริง ๆ ตัวเองต้องใช้มากเท่าไหร่ เลยอยากให้คุณลองใช้งานเครื่องไปเรื่อย ๆ จนพบเจอปัญหาพื้นที่จัดเก็บไม่พอเสียก่อน แล้วจึงค่อยซื้อมันภายหลัง

เก็บเซฟเกมไว้ที่ Nintendo Switch Online Cloud

ผู้สมัครสมาชิก Nintendo Switch Online (ระบบการสมัครสมาชิกรายเดือนเหมือน PlayStation Plus) นอกจากจะได้การเข้าถึงโหมดออนไลน์ได้แล้ว อีกหนึ่งอย่างที่แถมมาด้วยก็คือพื้นที่จัดเก็บบนคลาวด์ที่จะทำการแบ็กอัพเซฟเกมให้เราโดยอัตโตมัติ* แถมยังสามารถโอนย้ายเซฟระหว่างเครื่อง (หากมีหลายเครื่อง) ได้ด้วย

ทำให้เมื่อเราทำการลบเกมออกไปจากเครื่องแล้ว เราก็ยังถือครองเซฟเกมอยู่ที่พร้อมให้เราได้เข้าไปเล่นต่อเมื่อเราได้ทำการดาวน์โหลดเกมกลับลงเครื่องได้ตลอดเวลา**

*ระบบเซฟเกมนั้นรองรับเพียงบางเกมเท่านั้น
**เซฟจะมีอายุ 6 เดือนหลังจากอายุสมาชิก Nintendo Switch Online สิ้นสุดลง ซึ่งสามารถต่ออายุ Nintendo Switch Online เพื่อต่ออายุเซฟได้

ซื้อเครื่อง Nintendo Switch ที่มีความจุใหญ่กว่า

สำหรับผู้เล่นที่มี Nintendo Switch อยู่แล้ว วิธีนี้อาจจะดูแปลกไปหน่อย แต่ใครที่ยังไม่มี Nintendo Switch แล้วกำลังทำการค้นคว้าบนโลกอินเตอร์เน็ตก็อาจจะเป็นเรื่องที่คุณควรนำไปคิดดูนะ ดังนั้นใครที่อยากได้พื้นที่จัดเก็บเพิ่มก็ลองดูตารางพื้นที่จัดเก็บภายใน* ของแต่ละรุ่นเพื่อประกอบการตัดสินใจเอาแล้วกันครับ

อ่านต่อฉบับเต็ม
สำหรับใครที่กำลังมองหา Nintendo Switch แต่ไม่รู้ว่าจะเลือกรุ่นไหนดีก็สามารถอ่านต่อได้ที่สตอรี : เปรียบเทียบ! Nintendo Switch, NS OLED, NS Lite ต่างกันอย่างไร?