ไม่รู้ว่าตัวละครต้องใส่อาร์ติแฟกต์อะไร? ในสตอรีนี้เราจะมาพาทำความรู้จักกับอาร์ติแฟกต์ว่ามันคืออะไร? ทำไมถึงต้องให้ความสำคัญกับอาร์ติแฟกต์? แต่ละค่าสถานะคืออะไร? ตัวละครต้องใส่ค่าสถานะอะไรบ้าง? รวมไปถึงรายละเอียดในเรื่องของเซ็ทอาร์ติแฟกต์ที่อาจเป็นตัวแปรหลักของตัวละครเลยก็เป็นได้ และเราก็จะมาพาดูวิธีการเลือกอาร์ติแฟกต์ที่เหมาะสมกันครับ

อ่านต่อฉบับเต็ม
สตอรีนี้เป็นส่วนหนึ่งของซีรีส์การจัดอาร์ติแฟกต์ในเกม Genshin Impact เพื่อน ๆ สามารถอ่านเกี่ยวกับอาร์ติแฟกต์ทั้งหมดได้ที่หัวข้อ Genshin Impact - Artifact

เนื้อหาในสตอรีนี้

อาร์ติแฟกต์คืออะไร?

อาร์ติแฟกต์ (Artifact) คือของที่ตัวละครแต่ละตัวนั้นสามารถสวมใส่เพื่อให้ได้มาถึงค่าสถานะของอาร์ติแฟกต์สู่ตัวละครที่ใส่อาร์ติแฟกต์ชิ้นนั้นอยู่ โดยที่ผู้เล่นสามารถเลือกอาร์ติแฟกต์ที่เหมาะสมให้กับตัวละครที่เราต้องการ และสามารถฟาร์มอาร์ติแฟกต์เพิ่มเติมเพื่อเลือกค่าสถานะที่เหมาะสมตามที่ต้องการได้

โฆษณา

อาร์ติแฟกต์ภายในเกม Genshin Impact นั้นถือว่าเป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบของการเพิ่มค่าสถานะให้กับตัวละคร โดยจะเป็นการดึงหรือชูพลังที่อยู่ในตัวละคร ให้สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ เช่นการเพิ่มความแรงในการเกิดปฏิกิริยาธาตุ เพิ่มปริมาณการเพิ่มพลังชีวิต การตีศัตรูที่แรงขึ้น และอื่น ๆ อีกมากมายตามหน้าที่ของแต่ละตัวละคร ที่จำเป็นมากสำหรับการเลื่อนขั้นตัวละครให้สามารถจัดการศัตรูที่มีระดับความยากที่สูงขึ้นได้

แต่ปัญหาที่เราจะพบนั่นก็คือทรัพยากรอาร์ติแฟกต์ของเรานั้นมีอย่างจำกัด (จำกัดโดยระบบ Original Resin ที่ได้รับต่อวัน) ดังนั้นการใช้งานอาร์ติแฟกต์ให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุดและดึงพลังของมันออกมาได้อย่างเหมาะสมจึงเป็นเรื่องที่เราต้องให้ความเข้าใจและยกเป็นหัวข้อหลักกันในสตอรีนี้กันเลยทีเดียว

ช่องเก็บอาร์ติแฟกต์

เพื่อน ๆ สามารถเข้าไปดูว่าตัวเองมีอาร์ติแฟกต์อะไรบ้างได้ในช่องเก็บของ (Inventory) และเลือกที่แท็บ “อาร์ติแฟกต์” (แท็บอันที่ 2) โดยภายในช่องเก็บอาร์ติแฟกต์นั้น เพื่อน ๆ ก็จะสามารถตรวจสอบค่าสถานะอาร์ติแฟกต์ เลเวลอาร์ติแฟกต์ และตัวละครที่ใส่อาร์ติแฟกต์ชิ้นนั้นอยู่ได้

แต่อย่างไรก็ตามผู้เล่นจะมีช่องเก็บอาร์ติแฟกต์จำกัด เป็นจำนวน 1,500 (จากเดิมก่อนวันที่ 16 ตุลาคม 2021 มีที่เก็บเพียง 1,000 ชิ้นเท่านั้น) ซึ่งก็จะทำให้คนที่ฟาร์มอาร์ติแฟกต์เยอะ ๆ ก็จะประสบปัญหาพื้นที่จัดเก็บอาร์ติแฟกต์เต็ม และต้องคอยมาเลือกอาร์ติแฟกต์ที่อยากเก็บไว้เรื่อย ๆ

องค์ประกอบในอาร์ติแฟกต์

ประเภทอาร์ติแฟกต์ทั้ง 5 ชิ้น (Artifact Type)

ตัวละครหนึ่งตัวจะสามารถใส่อาร์ติแฟกต์ได้ทั้งหมด 5 ชิ้นใน 5 ประเภทชิ้นอาร์ติแฟกต์ ที่จะทำหน้าที่ในการเพิ่มค่าสถานะตัวละครที่แตกต่างกันออกไปได้แก่ Flower of Life, Plume of Death, Sands of Eon, Goblet of Eonothem, Circlet of Logos โดยในกลุ่มผู้เล่น Genshin Impact (โดยเฉพาะผู้เล่นเก่า) ก็มักจะเรียกชิ้นอาร์ติแฟกต์กันอย่างย่อ ๆ ได้แก่ Flower, Plume, Sands, Goblet, Circlet

โดยตัวละครหนึ่งตัวจะสามารถใส่ชิ้นอาร์ติแฟกต์ในแต่ละประเภทได้เพียงหนึ่งชิ้นเท่านั้น และแต่ละชิ้นก็มีค่าสถานะ (ค่าสถานะหลัก) ที่แตกต่างกันออกไป ทำให้ใครที่จะกำลังคิดใส่อาร์ติแฟกต์ก็จะต้องวางแผนกันก่อนว่าเราต้องการเพิ่มค่าสถานะใดด้วยการใช้ชิ้นอาร์ติแฟกต์ใด

ระดับอาร์ติแฟกต์และค่าสถานะ (Artifact Rarity)

แต่ละชิ้นอาร์ติแฟกต์ก็จะมีระดับความหายากทั้งหมด 5 ระดับ (เทา-เขียว-ฟ้า-ม่วง-ทอง)​ โดยเรียงลำดับความหายากจากเทา (ง่ายสุด) ไปจนถึงทอง (ยากสุด) โดยระดับอาร์ติแฟกต์นั้นนอกจากจะส่งผลต่อความยาก-ง่ายในการได้รับอาร์ติแฟกต์แล้ว เรื่องที่สำคัญที่สุดก็คือค่าสถานะที่เราได้รับสูงสุดจากการอัพเกรดอาร์ติแฟกต์ และเลเวลอาร์ติแฟกต์สูงสุดของแต่ละระดับ

จึงทำให้อาร์ติแฟกต์ระดับทองนั้นได้รับความนิยมในการฟาร์มและเลือกใช้สูงสุดนั่นเอง เพราะปริมาณโบนัสค่าสถานะที่ได้และโบนัสสูงสุดที่จะได้นั้นคุ้มค่าต่อการใส่ในตัวละคร ที่สามารถใส่ได้เพียงหนึ่งชิ้นในแต่ละประเภทชิ้นอาร์ติแฟกต์นั่นเอง

โฆษณา

ประเภทค่าสถานะอาร์ติแฟกต์

ภายในอาร์ติแฟกต์นั้นจะมีค่าสถานะที่จะมาเพิ่มพลังค่าสถานะของตัวละครอยู่หลัก ๆ สองประเภทได้แก่:

ค่าสถานะหลัก (Main Stats)

ค่าสถานะหลัก (Main Stats) คือค่าสถานะที่เยอะ “เป็นหลัก” ให้กับอาร์ติแฟกต์และส่งผลต่อตัวละครอย่างชัดเจน เมื่ออาร์ติแฟกต์ได้รับการอัพเกรดเลเวล ค่าสถานะหลักก็จะเพิ่มขึ้น (ในลักษณะเส้นตรง) ตามระดับอาร์ติแฟกต์ที่สูงขึ้นและไม่มีการเปลี่ยนแปลงไป

ทำให้เพื่อน ๆ ที่กำลังจะใส่อาร์ติแฟกต์ก็จะต้องมาสนใจค่าสถานะนี้ก่อนเลยหล่ะครับว่าจะต้องใส่อาร์ติแฟกต์ชิ้นไหน ที่มีค่าสถานะหลักเป็นอย่างไร ให้กับตัวละครไหน ถึงจะมีประสิทธิภาพสูงสุด

ค่าสถานะรอง (Sub Stats)

ค่าสถานะรอง (Sub Stats) คือค่าสถานะที่เป็นตัวเพิ่มมูลค่าให้กับอาร์ติแฟกต์ให้ออกมาสวยงาม ด้วยค่าสถานะที่เพื่อน ๆ สามารถได้เพิ่มอีก 20-40% เพื่อเอาไปให้ตัวละครที่เหมาะสม แต่อย่างไรก็ตาม ค่าสถานะรองนั้นถือว่าเป็นเหมือน “ตัวแปรที่คาดการณ์ไม่ได้” ที่ผู้เล่นจะต้องสุ่มค่าสถานะรองเมื่อได้รับอาร์ติแฟกต์ ทั้งค่าสถานะและปริมาณ

ทำให้ใครที่กำลังต้องการอาร์ติแฟกต์ที่สมบูรณ์แบบหรือค่าสถานะที่ต้องการมากกว่าเพียงค่าสถานะหลัก เพื่อน ๆ ก็อาจจะต้องมาทำความสนใจกับค่าสถานะรองกันบ้างแล้วหล่ะครับ

ซึ่งค่าสถานะทั้งสองประเภทนี้ก็จะมาทำการเพิ่มค่าสถานะให้กับตัวละครของเราในค่าสถานะที่ได้รับแตกต่างกันออกไปและปริมาณที่ได้รับจากแต่ละค่าสถานะ แต่อย่างไรก็ตาม เพื่อน ๆ ก็ควรที่จะชั่งใจในเรื่องของค่าสถานะและการได้มาของค่าสถานะที่เหมาะสมเอาไว้ (เช่น การฟาร์มอาร์ติแฟกต์) เอาไว้จนกว่าเพื่อน ๆ จะมีทีมที่พร้อมและความรู้เรื่องค่าสถานะที่เพียงพอ เพื่อเลือกค่าสถานะที่เหมาะสมให้กับตัวละครแต่ละตัวของเพื่อน ๆ ได้ดีมากที่สุด

โฆษณา

เซ็ทอาร์ติแฟกต์ (Artifact Sets)

ตัวแปรสุดท้ายในการเลือกใช้อาร์ติแฟกต์ที่เหมาะสมกับตัวละครนั่นก็คือเซ็ทอาร์ติแฟกต์ที่น่าใช้งานครับ โดยแต่ละเซ็ทนั้นก็จะมีค่าสถานะ/พลังเพิ่มเมื่อตัวละครนั้นสวมใส่ชิ้นอาร์ติแฟกต์เซ็ทเดียวกันอย่างน้อย 2 หรือ/และ 4 ชิ้น โดยตัวละครนั้นก็จะได้รับประโยชน์จากค่าสถานะที่ได้รับเพิ่มจากเซ็ทอาร์ติแฟกต์บวกเข้าไปกับค่าสถานะอื่น ๆ ของตัวละครและอาร์ติแฟกต์ที่สวมใส่

ทำให้ตัวละครหลาย ๆ ตัวนั้นถือว่าพึ่งพาค่าสถานะเพิ่มเติมที่ได้จากเซ็ทอาร์ติแฟกต์เลย ตัวอย่างเช่น ตัวละคร Kamisato Ayaka (Cyro) เมื่อเราทำการเลือกใส่อาร์ติแฟกต์เซ็ท Blizzard Strayer ให้กับเธอครบทั้ง 4 ชิ้นแล้ว เราก็จะได้รับโบนัสการโจมตีธาตุน้ำแข็งเมื่อศัตรูอยู่ในสถานะแช่แข็งเพิ่มขึ้น 40% และเธอเองก็สามารถโจมตีธาตุน้ำแข็งได้ดี และยังเป็นตัวละครประเภท DPS ด้วย ทำให้เพื่อน ๆ ก็ควรที่จะเลือกอาร์ติแฟกต์เซ็ท Blizzard Strayer ให้กับเธอ

จากตัวอย่างด้านบนก็จะทำให้เราเห็นว่าการเลือกเซ็ทอาร์ติแฟกต์ที่เหมาะสมกับแต่ละตัวละครนั้นมีความสำคัญแค่ไหน เราจึงได้นำเอาเรื่องของเซ็ทอาร์ติแฟกต์ไปไว้ในสตอรีแยกออกมาเลย โดยเพื่อน ๆ สามารถอ่านต่อเกี่ยวกับเซ็ทอาร์ติแฟกต์ การฟาร์มหาเซ็ทอาร์ติแฟกต์ และการเลือกใช้เซ็ทอาร์ติแฟกต์สำหรับตัวละครแต่ละตัวได้ที่สตอรี วิธีเลือกเซ็ทอาร์ติแฟกต์ใน Genshin Impact

ตัวอย่างคำอธิบายเซ็ทอาร์ติแฟกต์

วิธีการได้รับอาร์ติแฟกต์

ข้อต่อไปหลังจากที่เรารู้จักอาร์ติแฟกต์กันมามากพอแล้วก็ได้เวลาของการ “วิธีได้รับอาร์ติแฟกต์” กันเลยครับ โดยอาร์ติแฟกต์ในเกม Genshin Impact นั้นมีหลายวิธีดังต่อไปนี้ครับ

  • ทำเควสท์ทั้งเควสท์หลักและเควสท์รอง
  • ทำภารกิจรายวัน (Daily Commissions)
  • ทำภารกิจใน Adventure’s Guide
  • ได้รับจากการเปิดกล่องสมบัติ
  • ได้รับจากบอสระดับสูง
  • ได้รับจากมอนสเตอร์ระดับสูง
  • ได้รับจากการกด ‘ค้นหา’ สิ่งของ
  • การฟาร์มอาร์ติแฟกต์ในดันเจี้ยน

แต่เนื่องจาก 7 วิธีด้านบน ทั้งการทำเควสท์หรือเก็บอาร์ติแฟกต์จากข้างทางนั้นก็จะจำกัดโดยเลเวลของตัวละครเรา ทำให้พักหลัง ๆ ที่ตัวละครของเราเก่งขึ้นและต้องการเลือกอาร์ติแฟกต์ที่เหมาะสมกับเรา เลยต้องไปตกกับเรื่องของ “การฟาร์มอาร์ติแฟกต์” ที่จะเหมาะที่สุดสำหรับเพื่อน ๆ ที่เล่นไปแล้วซักพักหนึ่งและต้องการอาร์ติแฟกต์นอกเหนือจากที่ให้มาฟรี ๆ

โฆษณา

วิธีอ่านค่าสถานะอาร์ติแฟกต์

หลาย ๆ คนเมื่อมาถึงหัวข้อนี้แล้วก็น่าจะมีอาร์ติแฟกต์พร้อมใช้กันแล้วใช่ไหมหล่ะ ตอนนี้เราก็จะเข้าไปยังหัวข้อถัดไป หรือก็คือการทำความเข้าใจและการเลือกใช้อาร์ติแฟกต์ที่มีกันก่อน เพื่อให้เพื่อน ๆ นั้นรู้จักวิธีการอ่านค่าสถานะเพื่อเลือกใช้อาร์ติแฟกต์ได้อย่างเหมาะสมได้ด้วยตนเอง

ค่าสถานะอาร์ติแฟกต์ในหน้าอาร์ติแฟกต์

เพื่อตรวจสอบค่าสถานะอาร์ติแฟกต์ เพื่อน ๆ ก็สามารถเปิดเข้าไปยังหน้าแท็บอาร์ติแฟกต์ภายในเมนูช่องเก็บของ หรือเข้าในแท็บอาร์ติแฟกต์ในหน้าเมนูตัวละคร เราก็จะเห็นค่าสถานะของอาร์ติแฟกต์และความหมายของแต่ละค่าสถานะ (ตามภาพประกอบด้านล่าง)

ตัวอย่างสำหรับการอ่านค่าสถานะ

ความหมายของคำอธิบายในอาร์ติแฟกต์

ชื่ออาร์ติแฟกต์

ค่าจากในตัวอย่าง: Snowswept Memory

ประเภทของอาร์ติแฟกต์

ค่าจากในตัวอย่าง: Flower of Life

ค่าสถานะหลัก

(อ่านต่อได้ในหัวข้อ “ค่าสถานะหลัก”)

ค่าจากในตัวอย่าง: พลังชีวิต 4,780 (หน่วย)

ระดับความหายาก

(อ่านต่อได้ในหัวข้อ “ระดับความหายากต่อเลเวลอาร์ติแฟกต์”)

ค่าจากในตัวอย่าง: 5 ดาว

เลเวลของอาร์ติแฟกต์

(อ่านต่อได้ในหัวข้อ “การอัพเกรดอาร์ติแฟกต์”)

ค่าจากในตัวอย่าง: 20

ค่าสถานะรอง

(อ่านต่อได้ในหัวข้อ “ค่าสถานะรอง”)

ค่าจากในตัวอย่าง: พลังชีวิต(%) 5.3%, พลังป้องกัน 21, พลังโจมตี(%) 18.1%, ความแรงคริ 21%

เซ็ทอาร์ติแฟกต์

ชื่อเซ็ทอาร์ติแฟกต์ของอาร์ติแฟกต์ชิ้นนี้

ค่าจากในตัวอย่าง: Blizzard Strayer

จำนวนอาร์ติแฟกต์ตรงเซ็ท

จำนวนอาร์ติแฟกต์ที่มีเซ็ทตรงกันกับเซ็ทอาร์ติแฟกต์ที่กำลังดูอยู่

ค่าจากในตัวอย่าง: 4

โบนัสเมื่อใส่ครบ 2 ชิ้น

เป็นค่าสถานะโบนัสที่ผู้เล่นจะได้รับหากใส่เซ็ทอาร์ติแฟกต์เซ็ทเดียวกันใหักับตัวละครเดียวกันครบ 2 ชิ้น

ค่าจากในตัวอย่าง: ได้รับโบนัสค่าเสียหายน้ำแข็ง 15% (เปิดใช้งาน)

โบนัสเมื่อใส่ครบ 4 ชิ้น

เป็นค่าสถานะโบนัสที่ผู้เล่นจะได้รับหากใส่เซ็ทอาร์ติแฟกต์เซ็ทเดียวกันใหักับตัวละครเดียวกันครบ 4 ชิ้น

ค่าจากในตัวอย่าง: เมื่อโจมตีศัตรูที่ได้รับผลกระทบของธาตุน้ำแข็ง อัตราคริจะเพิ่มขึ้น 20%; หากศัตรูตกอยู่ในสภาวะแช่แข็ง อัตราคริจะเพิ่มขึ้นอีก 20% (เปิดใช้งาน)

ตัวละครที่สวมใส่อาร์ติแฟกต์

ชื่อตัวละครที่กำลังสวมใส่อาร์ติแฟกต์ชิ้นนี้อยู่ (หากไม่มีตัวละครสวมใส่ ช่องนี้จะไม่แสดงบนหน้าจอ)

ค่าจากในตัวอย่าง: Kamisato Ayaka

ประเภทค่าสถานะในอาร์ติแฟกต์

เราก็ได้รู้จักกับประเภทค่าสถานะกันไปแล้ว นั่นก็คือค่าสถานะหลักและค่าสถานะรอง ซึ่งทั้งสองค่าสถานะนั้นก็จะมีตัวเลือกประเภทค่าสถานะที่แตกต่างกันออกไป โดยที่:

ค่าสถานะที่มีในแต่ละประเภทค่าสถานะ

ค่าสถานะหลัก (Main Stats)

สำหรับค่าสถานะหลักนั้น ประเภทชิ้นอาร์ติแฟกต์ (Flower, Plume, Sands, Goblet, Circlet) นั้นจะเป็นตัวกำหนดประเภทค่าสถานะหลัก โดยมีความเป็นไปได้ดังนี้:

  • Flower: พลังชีวิต
  • Plume: พลังโจมตี
  • Sands: พลังชีวิต %, พลังโจมตี %, พลังป้องกัน %, ความชำนาญธาตุ, การฟื้นฟูพลังงาน
  • Goblet: พลังชีวิต %, พลังโจมตี %, พลังป้องกัน %, ความชำนาญธาตุ, โบนัสความเสียหายธาตุ
  • Circlet: พลังชีวิต %, พลังโจมตี %, พลังป้องกัน %, ความชำนาญธาตุ, อัตราคริ, ความแรงคริ, โบนัสฟื้นฟู

และเนื่องจากว่าเป็นค่าสถานะที่มีหน้าที่เป็นค่าสถานะหลัก ตัวละครจึงได้รับโบนัสจากค่าสถานะหลักสูงที่สุด จึงเป็นการดีที่ว่าเราควรที่จะเลือกค่าสถานะหลักที่เหมาะสมกับตัวละครให้ได้เสียก่อน แล้วจึงเลือกค่าสถานะรองที่ส่งผลต่อตัวละครน้อยกว่า

ค่าสถานะรอง (Sub Stats)

ค่าสถานะที่ไม่อยู่ในค่าสถานะหลักหรือค่าสถานะรองอื่นนั้นจะเป็นตัวกำหนดค่าสถานะรองที่อยู่ในอาร์ติแฟกต์ โดยมีให้เลือกทั้งหมด 10 ค่าสถานะที่สามารถอยู่ในค่าสถานะรองได้ดังนี้: พลังชีวิต , พลังโจมตี, พลังป้องกัน, พลังชีวิต %, พลังโจมตี %, พลังป้องกัน %, การฟื้นฟูพลังงาน, ความชำนาญธาตุ, อัตราคริ, ความแรงคริ

คำอธิบายประเภทค่าสถานะบนอาร์ติแฟกต์

กลับมาเรื่องของประเภทค่าสถานะบนอาร์ติแฟกต์กันครับ โดยแต่ละประเภทค่าสถานะนั้นก็จะมีการเพิ่มค่าสถานะให้กับตัวละครที่สวมใส่อาร์ติแฟกต์ชิ้นนั้นตามค่าสถานะที่เขียนเอาไว้เลยครับ

โฆษณา
❤️
พลังชีวิต
(HP)

HP (หรือ Flat HP) คือพลังเลือดที่จะกำหนดว่าตัวละครนั้นสามารถรับพลังการโจมตีได้มากเท่าไหร่ โดยเพิ่มเป็นจำนวนเข้าไปรวมกับค่าพลังชีวิตเริ่มต้น (Base HP) ของตัวละคร

ตัวละครที่มีค่า HP มากก็จะทำให้รับความเสียหายจากการโดนโจมตีได้สูงขึ้น (หรือสามารถฟื้นฟูเลือดให้ตัวละครอื่น หรือได้รับโบนัสการโจมตี ที่มีเฉพาะในบางตัวละครเท่านั้น)

⚔️
พลังโจมตี
(ATK)

ATK (หรือ Flat ATK) คือพลังการโจมตีแบบกายภาพและธาตุโดยหากว่าค่านี้มีจำนวนที่สูงก็จะทำให้โจมตีศัตรูได้แรง โดยเพิ่มเป็นจำนวนเข้าไปรวมกับค่าการโจมตีเริ่มต้น (Base ATK) ของตัวละคร

ตัวละครที่มีค่าสถานะ ATK มาก ก็จะสามารถโจมตี (ทั้งกายภาพและธาตุ) ได้สูงขึ้น (แล้วแต่ตัวละคร) หรืออาจฟื้นฟูเลือดได้มากขึ้น (แล้วแต่ตัวละคร)

ดังนั้นหากตัวละครมีค่า ATK มากก็จะสามารถโจมตีกายภาพ-ธาตุ/ฟื้นฟูเลือดได้มากยิ่งขึ้น (แล้วแต่ Passive ของตัวละคร)

🛡️
ป้องกัน
(DEF)

DEF (หรือ Flat DEF) คือพลังป้องกันที่จะลดค่าพลังการโจมตีที่เราจะได้รับจากการโดนโจมตีื โดยเพิ่มเป็นจำนวนเข้าไปรวมกับค่าป้องกันเริ่มต้น (Base DEF) ของตัวละคร

ตัวละครที่มีค่าสถานะ DEF สูงก็จะสามารถรับการโดนโจมตีได้มากขึ้น (และอาจโจมตีได้แรงขึ้นหากตัวละครมีลักษณะที่ได้รับโบนัสการโจมตีจากค่าป้องกัน อย่างเช่นตัวละครธาตุหิน)

❤️ ⚔️ 🛡️
พลังชีวิต% / พลังโจมตี% / ป้องกัน%
(HP% / ATK% / DEF%)

HP% / ATK% / DEF% ก็เหมือนค่าสถานะ HP / ATK / DEF แต่จะคำนวณโบนัส (%) ที่ได้จากค่าสถานะพื้นฐานของตัวละครก่อนเพิ่มโดยค่าสถานะอื่น และก็ได้รับเพิ่มไปเท่านั้น ทำให้เหมาะมากสำหรับตัวละครที่มีค่าสถานะพื้นฐานที่สูงอยู่แล้ว

ค่าสถานะนี้จึงเป็นเหมือนการเพิ่มในเพิ่มพวกค่าสถานะ HP/ATK/DEF เข้าไปอีกทบหนึ่งนั่นเอง

โฆษณา
🧪
ความชำนาญธาตุ
(Elemental Mastery หรือ EM)

ความชำนาญธาตุคือค่าสถานะที่จะเพิ่มความเสียหายหรือโบนัสที่ได้จากการเกิดปฏิกิริยาธาตุ (เช่น Freeze, Electro-Charged, Melt, Overloaded, Vaporize, Shattered, Crystalize และรวมไปถึง Swirl) ตามสูตรการเพิ่มพลังปฏิกิริยา

ดังนั้นหากตัวละครมีค่า EM มากก็จะทำผลลัพธ์ที่ได้เมื่อเกิดปฏิกิริยาธาตุได้มาก


การฟื้นฟูพลังงาน
(Energy Recharge หรือ ER)

การฟื้นฟูพลังงานคือค่าสถานะที่ผู้เล่นจะได้รับพลังงาน (ที่ใช้เพื่อการโจมตีประเภท Elemental Burst) ที่ได้รับจากการโจมตีศัตรูสำเร็จได้มากขึ้น

ทำให้ตัวละครที่มีค่าการฟื้นฟูพลังงาน (ER) มาก ตัวละครนั้นก็จะฟื้นฟูพลังงานเพื่อกดใช้ Elemental Burst ได้เร็วขึ้นนั่นเอง

💥
อัตราคริ
(CRIT Rate)

อัตราคริก็คือค่าสถานะอันความเป็นไปได้ว่าในการโจมตีครั้งนั้นจะโจมตีแบบ CRIT หรือไม่ ซึ่งการตีแบบติด CRIT นั้นจะทำความเสียหายให้กับศัตรูเท่ากับ ATK + CRIT DMG

ดังนั้นหากตัวละครมีค่า CRIT Rate มากก็จะทำให้มีสิทธิในการโจมตีแบบติดคริมีมากขึ้น ซึ่งการโจมตีแบบ CRIT นั้นก็มีความแรงที่สูงกว่าการโจมตีปกติอยู่แล้ว 50% (อ้างอิงจากค่าเริ่มต้นในความแรงคริของตัวละคร)

🗡️
ความแรงคริ
(CRIT Damage)

ความแรงคริคือค่าสถานะที่เป็นการเพิ่มค่าการโจมตีเข้าไปจากการโจมตีแบบปกติ หรือก็คือการโจมตีแบบติดครินั่นเอง

ดังนั้นหากตัวละครมีค่า CRIT DMG มากก็จะทำให้โจมตีได้แรงขึ้นด้วยการเพิ่มพลังการโจมตีเข้าไปในพลังการโจมตีพื้นฐานนั่นเอง (เฉพาะครั้งที่โจมตีแล้วติดคริ ที่มีความเป็นไปได้ในการติดที่สูงขึ้นจากอัตราคริที่มีอยู่แล้ว 5% (อ้างอิงจากค่าเริ่มต้นในอัตราคริของตัวละคร) )

โฆษณา
❤️‍🩹
โบนัสฟื้นฟู
(Healing Bonus)

โบนัสฟื้นฟูเป็นค่าสถานะที่จะเพิ่มประสิทธิภาพในการการฟื้นฟูพลังชีวิต (HP) ให้กับทีมได้มากขึ้นตามเปอร์เซ็นต์โบนัส

ดังนั้นหากตัวละครมีค่า Healing Bonus มากก็จะทำให้ฮีลในหนึ่งครั้งได้เยอะมากขึ้น เพิ่มเติมจากการคำนวนจากค่าสถานะอื่นของตัวละครแล้ว

⚔️
โบนัสความเสียหายธาตุ
(Elemental Damage Bonus)

โบนัสความเสียหายนั้นเป็นค่าสถานะที่เพิ่มการโจมตีในแต่ละธาตุหรือกายภาพให้ทำความเสียหายได้มากขึ้นในธาตุหรือกายภาพนั้น ๆ โดยมีให้เลีอกเป็น ลม/หิน/ไฟ/น้ำ/ไฟฟ้า/น้ำแข็ง/กายภาพ

ดังนั้นการเพิ่มโบนัสความเสียหายธาตุก็จะทำให้การเกิดปฏิกิริยาธาตุและโจมตีด้วยธาตุนั้นแรงขึ้นด้วย

ความเป็นไปได้ในการได้รับประเภทค่าสถานะ

น่าเสียดายที่แต่ละประเภทค่าสถานะ (ทั้งในค่าสถานะหลักและค่าสถานะรอง) นั้นมีความเป็นไปได้ที่จะเป็นค่าสถานะตามที่ผู้เล่นต้องการที่แตกต่างกันออกไป บางค่าสถานะอย่างโบนัสความเสียหายธาตุ หากว่าเราต้องการเฉพาะธาตุใดธาตุหนึ่งก็มีความเป็นไปได้เพียง 5% เท่านั้น บวกกับว่ามีเฉพาะใน Goblet เสียด้วย ทำให้หายากเข้าไปอีก

และทั้งหมดที่บ่นมาทั้งหมดนี้ เพื่อน ๆ ก็ต้องฟังเช่นกันเพื่อเอาไว้เลือกค่าชิ้นอาร์ติแฟกต์และการเลือกเซ็ทอาร์ติแฟกต์ที่ว่าจะให้ใส่ชิ้นไหนก่อน หรือจะให้ชิ้นไหนไม่อยู่ในเซ็ทอาร์ติแฟกต์และยังคงได้รับโบนัสเซ็ทอาร์ติแฟกต์ครบ 4 ชิ้นเหมือนเดิม

โดยเราจะกลับมาเรื่องของการเลือกชิ้น-เซ็ทอาร์ติแฟกต์ที่จะใส่ให้กับตัวละครในหัวข้อถัดไป

อ่านต่อฉบับเต็ม
ใครที่สนใจอ่านเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการได้รับแต่ละค่าสถานะ ที่จะบ่งบอกถึงความยาก-ง่ายในการฟาร์มเพื่อให้ได้ค่าสถานะที่ต้องการ ก็สามารถเข้าไปอ่านได้ที่สตอรี : มือใหม่หัดฟาร์มอาร์ติแฟกต์ ใน Genshin Impact

ฟาร์ม-เลือก-อัพเกรด-ใช้งานอาร์ติแฟกต์

4 ขั้นตอนในการหาอาร์ติแฟกต์ให้กับตัวละครที่เราหมายปองนั่นก็คือการฟาร์ม เลือก อัพเกรด ใช้งาน ซึ่งทั้งสี่ขั้นตอนนั้นถือว่าสำคัญและมีความยากอยู่พอควรเลย แต่ก็เป็นขั้นตอนเดียวที่ผู้เล่นจะสามารถมีอาร์ติแฟกต์ที่ดีที่สุด (หรือดีเพียงพอ) เพื่อให้ตัวละครของเราเอาไปใช้งาน

ฟาร์มอาร์ติแฟกต์

สำหรับใครที่กำลังปั้นตัวละครตัวใหม่ก็ต้องอดไม่ได้เลยครับสำหรับการฟาร์มอาร์ติแฟกต์ ทั้งการฟาร์มเพื่อเอาค่าสถานะที่เหมาะสม หรือการทำให้ตัวละครที่เราจะเอาอาร์ติแฟกต์ให้นั้นสมบูรณ์แบบมากขึ้นอย่างเช่นการฟาร์มเพื่อเลือกใช้เซ็ทอาร์ติแฟกต์ให้เหมาะสมหรือค่าสถานะอื่น ๆ ที่ยังพัฒนาได้ดีกว่านี้

โฆษณา

โดยก่อนที่เราจะเข้าไปฟาร์มอาร์ติแฟกต์นั้น เราก็จะต้องวางแผนกันก่อนว่าจะ:

1
เลือกใช้เซ็ทอาร์ติแฟกต์ใด

เพื่อให้สามารถรู้ได้ว่าต้องไปฟาร์มที่โดเมนไหน หรือใช้อาร์ติแฟกต์ที่เหลือใช้ได้หรือไม่

2
ต้องหาค่าสถานะหลักไหน

เลือกเพื่อให้เป็นประโยชน์กับตัวละครได้อย่างถูกจุดและสร้างความแตกต่างให้ตัวละครได้จริง ๆ

3
ต้องฟาร์มต่ออีกแค่ไหน

หากต้องการความเป็นเทพและดึงประสิทธิภาพของตัวละครออกมาได้อย่างดีที่สุดก็ต้องใช้ค่าสถานะรอง

อ่านต่อฉบับเต็ม
สำหรับวิธีการฟาร์ม คำแนะนำในการฟาร์มสำหรับผู้เล่นใหม่ และสิ่งที่คุณควรรู้ก่อนที่จะฟาร์มอาร์ติแฟกต์ ก็สามารถอ่านต่อได้ที่สตอรี : มือใหม่หัดฟาร์มอาร์ติแฟกต์ ใน Genshin Impact
ท่านไรเดน โชกุนกับประตูโดเมน

1
เลือกใช้เซ็ทอาร์ติแฟกต์ใด?

ขั้นตอนแรกเลยก็คือการเลือกเซ็ทอาร์ติแฟกต์ที่เราจะเอาไปให้ตัวละครที่เราเล็งเอาไว้ตั้งแต่แรก และเราก็ไปฟาร์มในดันเจี้ยนนั้นจนกว่าเราจะสำเร็จขั้นตอนที่ 3 นั่นก็คือการหาค่าสถานะหลัก-รองที่เหมาะสมพร้อมกับเซ็ทอาร์ติแฟกต์ที่ถูกต้องตามที่แต่ละคนพึงพอใจ

แนะนำไว้นิดหนึ่งสำหรับใครที่กำลังคิดไม่ออกว่าจะฟาร์มดันเจี้ยนไหนแล้วก็จะไปฟาร์มกราดเอาไว้ก่อน ผมบอกไว้ก่อนครับว่าตัวละครบางตัวในทีมของเพื่อน ๆ นั้นมีความสำคัญมาก-น้อยไม่เท่ากัน ดังนั้นเราก็ควรที่จะหาอาร์ติแฟกต์ที่สามารถทำให้ตัวละครหลักของเรานั้นเป็นหลักให้ทีมได้เสียก่อน ไม่ใช่ว่าไม่มีตัวไหนเก่งในทีมบ้างเลยเป็นเหมือนจับฉ่าย

2
ต้องหาค่าสถานะหลักไหน?

รู้แล้วว่าต้องไปฟาร์มดันเจี้ยนไหนแล้ว ขั้นต่อไปก็คือการรู้แจ้งว่าตัวละครที่เราต้องการฟาร์ให้นั้นจะต้องมีค่าสถานะหลักเป็นอะไร เพราะค่าสถานะหลักนั้นมีความสำคัญมากที่สุดในการใช้งานอาร์ติแฟกต์เลยก็ว่าได้

โฆษณา

และการรู้ว่าจะต้องใช้ค่าสถานะหลักอะไรก็อาจจะทำให้เพื่อน ๆ นั้นแอบเข้าไปดูช่องเก็บของตัวเองเสียหน่อยและก็อาจจะยอม (หรือใช้งานทดแทนกัน) กับอาร์ติแฟกต์ที่เรามีอยู่แล้ว เป็นการประหยัดการฟาร์มอาร์ติแฟกต์ไปให้กับเพื่อน ๆ ได้มากเลยทีเดียวและเป็นประโยชน์กับตัวละครเพราะก็จะสามารถนำเอาตัวละครนั้นไปใช้เพื่อฟาร์มอาร์ติแฟกต์ของตัวละครอื่นได้อีกด้วย

3
ต้องฟาร์มต่ออีกเท่าไหร่?

ค่าสถานะของตัวละครคุณยังไม่เป็นที่พึงพอใจหรือ? ไม่เป็นไรครับ เพราะหลาย ๆ คนนั้นก็มักจะลงทุนการใช้ Original Resin ไปกับการฟาร์มอาร์ติแฟกต์เพื่อหาค่าสถานะที่ดีเพียงพอกับผู้เล่น เพื่อเอาไปใช้งานในการต่อสู้ครั้งถัด ๆ ไป หรือเพื่อเอาไปทำภารกิจการต่อสู้ หรือไม่ก็เข้าไปท้าทายยัง Spiral Abyss ที่มีรางวัลเป็น Primogem แจกทุกเดือน

แต่ขอย้ำเอาไว้ก่อนว่าการฟาร์มอาร์ติแฟกต์นั้นใช้ทรัพยากร Original Resin เป็นจำนวนมากเพื่อให้ได้เพียง 5 ชิ้นที่ดีที่สุดโดยการวัดจากความเหมาะสมกับการใช้กับตัวละคร ดังนั้นใครที่ยังไม่รู้ว่าจะฟาร์มไปมากแค่ไหนต้องเตือนสติตัวเองด้วยนะ

อ่านต่อฉบับเต็ม
สำหรับวิธีการฟาร์ม คำแนะนำในการฟาร์มสำหรับผู้เล่นใหม่ และสิ่งที่คุณควรรู้ก่อนที่จะฟาร์มอาร์ติแฟกต์ ก็สามารถอ่านต่อได้ที่สตอรี : มือใหม่หัดฟาร์มอาร์ติแฟกต์ ใน Genshin Impact

เลือกอาร์ติแฟกต์

ก่อนทื่เราจะเลือกอาร์ติแฟกต์ให้กับตัวละครของเรา เราก็ควรที่จะรู้เรื่องเกี่ยวกับพื้นฐานของแต่ละตัวละครเสียก่อน ว่ามีจุดเด่นอะไร? ใช้งานค่าสถานะใดเป็นพิเศษหรือเป็นหลักหรือไม่? และหลังจากนั้นเราจึงได้ฤกษ์ไปฟาร์มอาร์ติแฟกต์ให้กับตัวละครเป็นขั้นตอนสุดท้าย และก็ควรที่จะตั้งเป้าหมายในการฟาร์มอาร์ติแฟกต์ให้มีที่สิ้นสุดเพื่อประหยัด Original Resin จากการฟาร์มไปพัฒนาตัวละครอื่นเพื่อสร้างทีมที่แข็งแกร่งหรืออัพเกรดอาวุธที่เหมาะสม

โดยเราก็ได้เอาขั้นตอนการเลือกเซ็ทอาร์ติแฟกต์ให้กับตัวละครเบื้องต้น แต่สามารถเอาไปใช้กับทุกตัวละครได้ดังนี้ครับ

1
รู้จักหน้าที่ของตัวละครให้ดี

รู้จักว่าตัวละครของเรานั้นมีหน้าที่เป็นอะไรภายในทีมของตัวเอง เช่นสายโจมตี, สายซัพพอร์ท, สาย Sub-DPS เป็นต้น

2
เลือกค่าสถานะหลักที่ได้ใช้จริง

เลือกค่าสถานะหลักที่ตรงกันกับการใช้งานจากอาร์ติแฟกต์ที่มีอยู่ให้กับตัวละครที่เหมาะสม

3
เสริมพลังอีกด้วยเซ็ทอาร์ติแฟกต์ + ค่าสถานะรอง

ดึงประสิทธิภาพออกมาสูงสุดด้วยการฟาร์มหรือเลือกอาร์ติแฟกต์ที่มีเซ็ทที่เหมาะสมและค่าสถานะหลัก-รองที่คู่ควร

อ่านต่อฉบับเต็ม
สำหรับวิธีการเลือกอาร์ติแฟกต์ที่มีอยู่ให้เหมาะสมกับตัวละคร สามารถเข้าไปอ่านต่อได้ที่สตอรี : วิธีเลือกเซ็ทอาร์ติแฟกต์ใน Genshin Impact
หน้าต่างอาร์ติแฟกต์ในตัวละคร Hu Tao

อัพเกรดอาร์ติแฟกต์

เมื่อคุณได้รับอาร์ติแฟกต์ที่พึงพอใจใน 5 ชิ้นอาร์ติแฟกต์ของคุณแล้ว ขั้นตอนที่ถือว่าเป็นขั้นสุดท้ายแล้วของการปั้นอาร์ติแฟกต์ก็คือการอัพเกรดอาร์ติแฟกต์นั่นเอง โดยการอัพเกรดเพื่อเพิ่มเลเวลอาร์ติแฟกต์หนึ่งขั้นนั้น เราก็จะได้รับการเพิ่มค่าสถานะหลักเป็นจำนวน xxxx หน่วยทันที (แตกต่างกันตามประเภทของค่าสถานะ) และเราก็จะได้รับค่าสถานะสำหรับค่าสถานะรองเมื่อทำการอัพเกรดไปถึงเลเวล 4 / เลเวล 8 / เลเวล 12 / เลเวล 16 / เลเวล 20

โฆษณา

แต่การอัพเกรดค่าสถานะรองหนึ่งครั้งนั้นก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปตามที่ผู้เล่นต้องการ บางครั้งอาจจะไปลงกับค่าสถานะรองที่เราไม่ต้องการและผิดหวังกับการเพิ่มค่าสถานะรองที่น่าจะดีกว่านี้ได้อีก เราก็เลยเอาวิธีการเลือกอาร์ติแฟกต์ว่าอันไหนควรปล่อยทิ้งแล้วไปฟาร์มใหม่ หรืออันไหนควรอัพเกรดต่อให้สุดกันครับ

1
ปลดล็อคค่าสถานะรองให้หมด

อาร์ติแฟกต์บางชิ้นไม่จำเป็นต้องอัพเกรดให้มากก็ทิ้งได้เลยเพราะไม่มีค่าสถานะรองที่ดีเลย

2
อัพเกรดให้ถึงเลเวล 12

อัพเกรดให้ถึงเลเวล 12 (สำหรับอาร์ติแฟกต์ระดับทอง) เพื่อดูว่าเป็นอย่างไรแล้วบ้าง

3
ตัดสินใจตามความยากในการหาอาร์ติแฟกต์ทดแทน

ถ้าตัดสินใจไม่ได้ว่าจะทิ้งหรือไม่ ก็ควรตัดสินใจตามความยากในการหาอาร์ติแฟกต์เพื่อเอามาทดแทน

อ่านต่อฉบับเต็ม
สำหรับวิธีการเลือกอาร์ติแฟกต์ที่เหมาะสำหรับการอัพเกรด วิธีการอัพเกรด จะต้องหยุดอัพเกรดเมื่อไหร่ถึงจะคุ้มค่าที่สุด? ก็สามารถเข้าไปอ่านต่อได้ที่สตอรี: อยากเก่งต้องเพิ่มพลังให้อาร์ติแฟกต์ใน Genshin Impact

1
ปลดล็อคค่าสถานะรองให้หมด

บางชิ้นอาร์ติแฟกต์นั้นอาจจะไม่มีการให้ค่าสถานะรองมาครบ เช่นอาร์ติแฟกต์ระดับทองนั้นสามารถใส่ได้ทั้งหมด 4 ค่าสถานะรอง แต่อาร์ติแฟกต์ระดับทองบางอันก็อาจจะมีให้เห็นเพียง 3 อันแรกเท่านั้น ผู้เล่นนั้นจะต้องทำการอัพเกรดอาร์ติแฟกต์ให้ถึงเลเวล 4 ถึงจะปลดล็อคค่าสถานะรองอันสุดท้ายในที่สุด

และหลังจากนั้น เพื่อน ๆ ก็สามารถพิจารณาว่าค่าสถานะรองทั้ง 4 ชิ้นนั้นคุ้มค่าหรือไม่ที่เราจะอัพเกรดต่อ โดยเฉพาะอาร์ติแฟกต์ที่สามารถหาทดแทนได้ง่ายอย่างเช่น Flower หรือ Plume ที่มีค่าสถานะหลักให้เลือกเพียงอันเดียวเท่านั้น

2
อัพเกรดให้ถึงเลเวล 12

เมื่อเราตัดสินใจที่จะอัพเกรดต่อหลังจากการปลดล็อคเลเวล 4 แล้ว เพื่อน ๆ ก็สามารถอัพเกรดอาร์ติแฟกต์ต่อให้ไปถึงเลเวล 12 ได้เลยแล้วก็มาตัดสินใจกันอีกครั้งหนึ่งว่าควรจะทิ้งอาร์ติแฟกต์ที่เราได้รับค่าสถานะรองไปทั้งหมด 2 ค่านั้นดีหรือไม่?

เราอยากให้เพื่อน ๆ นั้นพิจารณาในการอัพเกรดต่อจากเลเวล 12 ให้ดี ๆ เพราะว่าการอัพเกรดไปยังเลเวลถัดไปนั้นจะใข้ทรัพยากรอย่าง Artitfact EXP เป็นจำนวนมาก และหากต้องหลอม (ทิ้ง) ก็จะเสีย 20% ของ XP ที่ใช้ในการอัพเกรด ซึ่งผมเองมองว่ามันไม่คุ้มเสียเลยที่ก็ควรจะตัดใจอาร์ติแฟกต์นี้ตั้งแต่เนิ่น ๆ

โฆษณา

3
ตัดสินใจตามความยากในการหาอาร์ติแฟกต์ทดแทน

หากมันดีแล้วเพื่อน ๆ โอเคกับมันก็ดีไปครับ ยินดีด้วย! แต่ใครที่มองแล้วว่าไม่ควรไปต่อก็ควรเข้ามาชั่งใจนิดหนึ่งครับ เพราะว่าค่าสถานะหลักของอาร์ติแฟกต์แต่ละชิ้นนั้นมีความเป็นไปได้ที่จะได้รับที่แตกต่างกันออกไป แล้วค่าสถานะหลักนั้นก็ถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุดเสียด้วย

ดังนั้นหากอาร์ติแฟกต์ของคุณในชิ้นอาร์ติแฟกต์ Sands, Goblet, Circlet ของคุณไม่มีค่าสถานะรองที่คุณอยากจะได้ แต่ก็กว่าจะฟาร์มเพื่อให้ได้อาร์ติแฟกต์ที่มีเซ็ท-ค่าสถานะหลัก-ค่าสถานะรองที่ตรงตามความต้องการอีกชิ้นหนึ่งก็อาจจะไม่ใข่เรื่องง่าย เลยอาจเป็นลงทุนที่คุ้มค่ากว่าที่จะยอมเสีย 20% ของ XP เพื่อเอาอาร์ติแฟกต์ชิ้นนั้นไปใช้งานก่อนแล้วค่อยฟาร์มอาร์ติแฟกต์ชิ้นใหม่มาทดแทนภายหลัง

อ่านต่อฉบับเต็ม
สำหรับวิธีการเลือกอาร์ติแฟกต์ที่เหมาะสำหรับการอัพเกรด วิธีการอัพเกรด จะต้องหยุดอัพเกรดเมื่อไหร่ถึงจะคุ้มค่าที่สุด? ก็สามารถเข้าไปอ่านต่อได้ที่สตอรี: อยากเก่งต้องเพิ่มพลังให้อาร์ติแฟกต์ใน Genshin Impact

ใส่อาร์ติแฟกต์ให้กับตัวละคร

ว่ากันว่าการใส่และใช้พลังของอาร์ติแฟกต์นั้น ตัวละครจะต้องทำการอธิษฐานพร (สังเกตได้จากการที่ตัวละครพนมมือเมื่อต้องการใส่อาร์ติแฟกต์) จึงจะสามารถใช้พลัง “ค่าสถานะโบนัส” ของอาร์ติแฟกต์ได้

ตรวจสอบค่าสถานะใหม่ของตัวละคร

เมื่อเราใส่อาร์ติแฟกต์ให้กับตัวละครที่เราเลือกแล้ว ค่าสถานะของตัวละครนั้นก็จะมีการเพิ่มขึ้น-ลดลงตามที่ได้ใส่ไว้ภายในอาร์ติแฟกต์ โดยเราจะสังเกตค่า +xxx ตัวสีเขียว ๆ ที่อยู่หลังค่าสถานะสีขาว นั่นคือค่าสถานะที่มาจากอาร์ติแฟกต์ครับ

ค่าสถานะที่มาจากอาร์ติแฟกต์ +xxx นั้นจะไม่ถูกรวมเข้าไปในค่าสถานะพื้นฐานของตัวละครเองเฉพาะในช่องพลังชีวิต พลังโจมตี และพลังป้องกัน ส่วนค่าสถานะอื่นนั้นก็จะเป็นอาณิสงค์ของอาร์ติแฟกต์และบัฟจากอาหารหรือโพชันครับ

ค่าสถานะทั้งหมดของตัวละคร + อาร์ติแฟกต์

พัฒนาอาร์ติแฟกต์อย่างต่อเนื่องด้วย Artifact Optimizer

เมื่อเราฟาร์มไปเยอะ ๆ ก็จะเจอปัญหาอย่างผม นั่นก็คือการจัดการอาร์ติแฟกต์ที่ไม่ได้เรื่อง และไม่รู้ว่าอาร์ติแฟกต์อันไหนควรที่จะไปต่อหรือหยุดตรงนี้ (อ่านต่อเกี่ยวกับการเลือกอัพเกรดอาร์ติแฟกต์ได้ที่สตอรี : อยากเก่งต้องเพิ่มพลังให้อาร์ติแฟกต์ใน Genshin Impact) ดังนั้นในวันนี้ผมจึงมานำเสนออุปกรณ์เพื่อที่จะช่วยให้เพื่อน ๆ จัดเก็บอาร์ติแฟกต์ให้มีระเบียบและจัดสรรค์กองอาร์ติแฟกต์ให้เหมาะสมกันครับ นั่นก็คือ Artifact Optimizer นั่นเอง

Artifact Optimizer เป็นเว็บไซต์ที่จะช่วยให้เพื่อน ๆ จัดการอาร์ติแฟกต์ที่มีเยอะมากมายจากการฟาร์มด้วยระบบคำนวนค่าสถานะของแต่ละอาร์ติแฟกต์อัตโนมัติให้ผู้เล่นสามารถเลือกอาร์ติแฟกต์ที่มีอยู่ (หรือกำลังจะนำเอามาใช้) ให้กับตัวละครที่เราต้องการ

ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นบริการฟรีและยังสามารถเอาฐานข้อมูลอาร์ติแฟกต์และตัวละครของเราไปแชร์ให้กับเพื่อนได้อีกด้วย

และนอกจากนี้แล้ว เว็บไซต์ก็จะทำการคำนวณค่าสถานะว่าอาร์ติแฟกต์ชิ้นไหนเหมาะสมกับตัวละครแต่ละตัวได้อีกด้วย เหมือนเป็นบริการที่จะเลือกอาร์ติแฟกต์ให้ตัวละครของเราโดยอัตโนมัติเลยก็ได้

วิธีใช้งานก็ง่าย ๆ เพียงเข้าไปยังเว็บไซต์และทำการกรอกข้อมูลด้วยภาพถ่ายอาร์ติแฟกต์ (อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับภาพถ่ายในขั้นตอนการเพิ่มที่อยู่ในเว็บไซต์) หรือเพิ่มด้วยการกรอกข้อมูล และเพื่อน ๆ ก็จะได้ข้อมูลอาร์ติแฟกต์ที่จะแสดงค่าสถานะรองแต่ละอันว่ามีการเพิ่มแต่ละครั้งมากแค่ไหน

หรืออยากให้ระบบคำนวณอาร์ติแฟกต์ให้โดยอัตโนมัติก็สามารถเข้าไปยังหัวข้อ “Build” และทำการเลือกเงื่อนไขและตัวละครที่เราต้องการจะปั้นอาร์ติแฟกต์ให้ ระบบก็จะทำการลองใส่อาร์ติแฟกต์ที่อยู่ในระบบและทำการเลือกเซ็ตอาร์ติแฟกต์ที่ตรงตามความต้องการผู้เล่นสูงสุดให้โดยอัตโนมัติ

เพื่อน ๆ ที่สนใจก็สามารถเข้าไปลองไปใช้งานได้ที่เว็บไซต์ https://frzyc.github.io/genshin-optimizer/ ได้เลย และอย่าลืมที่จะกด Export ฐานข้อมูลอยู่เรื่อย ๆ เพื่อเป็นการบันทึกข้อมูลด้วยหล่ะ


ข้อมูลอ้างอิง
โฆษณา

Share this post

About the author